English
中文
日本語
ID
Vietnam
한국어
Filipino
 
   Navigasi Perguruan Tinggi

Swap ในการเทรด forex คืออะไร? วิธีคำนวณอัตราสวอปทำอย่างไร?

บทนำ:

การเทรดในตลาด Forex มีหลายปัจจัยที่นักลงทุนต้องพิจารณาเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร และหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่นักเทรดไม่ควรมองข้ามคือ “สวอป” ซึ่งเป็นดอกเบี้ยที่เกิดจากการถือครองตำแหน่งเทรดข้ามคืน Swap อาจเป็นได้ทั้งดอกเบี้ยที่นักเทรดต้องจ่าย หรือดอกเบี้ยที่ได้รับ ซึ่งขึ้นอยู่กับคู่สกุลเงินและอัตราดอกเบี้ยของประเทศที่เกี่ยวข้อง ในบทความนี้ เราจะทำการอธิบายอย่างละเอียดว่า Swap คืออะไร และวิธีการคำนวณ Swap ในการเทรด Forex พร้อมทั้งวิเคราะห์แนวโน้มและข้อมูลสถิติที่มีการอ้างอิงจากผู้ให้บริการทางการเงินที่เชื่อถือได้

Swap ในการเทรด Forex คืออะไร?

Swap คือค่าดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจากการถือครองตำแหน่งเทรดข้ามคืนในตลาด Forex ซึ่งตำแหน่งที่นักเทรดถืออยู่ จะถูกปรับปรุงตามอัตราดอกเบี้ยระหว่างคู่สกุลเงินสองสกุล หากนักเทรดถือครองตำแหน่ง “Long” (ซื้อ) หรือ “Short” (ขาย) ในสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยแตกต่างกัน การคิดดอกเบี้ยนี้จะถูกเรียกเก็บหรือจ่ายตามอัตราที่เป็นทางการของธนาคารกลาง

ตัวอย่างเช่น หากนักเทรดถือครองตำแหน่งซื้อสกุลเงิน USD/JPY ซึ่งดอกเบี้ยของสกุลเงิน USD สูงกว่าสกุลเงิน JPY นักเทรดจะได้รับดอกเบี้ยในอัตราส่วนต่าง แต่หากนักเทรดถือครองตำแหน่งขาย นักเทรดจะต้องจ่ายดอกเบี้ยในอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า

วิธีคำนวณอัตรา Swap:

การคำนวณอัตราสวอปในแต่ละโบรกเกอร์อาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อย แต่สูตรพื้นฐานที่ใช้ในการคำนวณนั้นมีดังนี้:

  • Swap = (มูลค่าของตำแหน่ง x (อัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินที่ซื้อ - อัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินที่ขาย)) / 365

นักเทรดสามารถใช้ข้อมูลดอกเบี้ยที่อ้างอิงจากธนาคารกลางของแต่ละประเทศในการคำนวณอัตราสวอป หรือใช้เครื่องมือของโบรกเกอร์ที่มีอยู่เพื่อดูอัตราสวอปของคู่สกุลเงินที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น หากนักเทรดทำการซื้อสกุลเงิน EUR/USD ในวันจันทร์ และถือครองตำแหน่งนั้นข้ามคืนจนถึงวันอังคาร การคิดอัตราสวอปจะขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินยูโร (EUR) และดอลลาร์สหรัฐ (USD)

กรณีศึกษาของ Swap ในตลาด Forex:

ตัวอย่างหนึ่งของการใช้สวอปในการเทรด Forex ได้แก่ การเทรดสกุลเงินคู่ที่มีความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยสูง เช่น AUD/JPY ซึ่งดอกเบี้ยของสกุลเงิน AUD (ดอลลาร์ออสเตรเลีย) มักจะสูงกว่าสกุลเงิน JPY (เยนญี่ปุ่น) นักลงทุนที่ทำการซื้อคู่สกุลเงินนี้และถือครองตำแหน่งข้ามคืนจะได้รับดอกเบี้ยเป็นสวอป ซึ่งในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา มีเทรดเดอร์จำนวนมากที่ใช้กลยุทธ์นี้ในการเพิ่มรายได้เสริมจากการเทรดแบบถือครองระยะยาว

จากข้อมูลสถิติของปี 2023 พบว่าการซื้อขายในคู่สกุลเงิน AUD/JPY ยังคงเป็นที่นิยมสูง เนื่องจากนักลงทุนมองว่าเป็นการสร้างโอกาสในการรับสวอปบวก อย่างไรก็ตาม การเทรดในคู่สกุลเงินที่มีดอกเบี้ยสูงจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเมื่อมีการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลาง

ความสำคัญของการคำนวณ Swap:

การคำนวณ Swap เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับนักเทรดระยะยาวหรือผู้ที่ชอบถือครองตำแหน่งข้ามคืน การไม่รู้หรือไม่เข้าใจวิธีคำนวณสวอปอาจทำให้นักเทรดเสียโอกาสในการทำกำไร หรือแย่ไปกว่านั้น อาจทำให้ขาดทุนจากค่าดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น หากอัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินที่ขายสูงกว่าสกุลเงินที่ซื้อ ตัวอย่างเช่น ในกรณีของการถือครองตำแหน่ง EUR/USD ข้ามคืน หากดอกเบี้ยของ USD สูงกว่า EUR นักเทรดจะต้องจ่ายดอกเบี้ยตามอัตราสวอป

อีกหนึ่งตัวอย่างคือ การเทรดในคู่สกุลเงิน GBP/USD ในปี 2022 ที่ผ่านมา เมื่อธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้นักเทรดที่ถือครองตำแหน่ง “Long” GBP/USD ได้รับสวอปในอัตราสูงมากขึ้น ข้อมูลจากโบรกเกอร์รายใหญ่ชี้ให้เห็นว่าในช่วงเวลาดังกล่าว อัตราสวอปของ GBP/USD เพิ่มขึ้นถึง 0.75% ซึ่งส่งผลให้การถือครองตำแหน่งในสกุลเงินนี้เป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนที่หวังรับกำไรจากสวอป

การใช้ Swap เป็นกลยุทธ์ในการเทรด:

Swap สามารถเป็นเครื่องมือที่นักเทรดใช้ในการสร้างรายได้เสริมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเทรดคู่สกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง ซึ่งนักเทรดจะมุ่งเน้นที่การซื้อขายในทิศทางที่ได้รับสวอปบวก (Positive Swap) โดยไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความผันผวนระยะสั้นของตลาด

กลยุทธ์หนึ่งที่นักเทรดนิยมใช้คือ “Carry Trade” ซึ่งเป็นการถือครองสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงและขายสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อรับกำไรจากสวอป ตัวอย่างของคู่สกุลเงินที่นักเทรดมักใช้ในกลยุทธ์นี้ ได้แก่ AUD/JPY และ NZD/JPY ซึ่งในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เป็นคู่สกุลเงินที่ได้รับความนิยมสูงจากการใช้กลยุทธ์นี้

แนวโน้มของ Swap ในตลาด Forex:

จากการวิเคราะห์แนวโน้มในปี 2024 คาดว่า Swap จะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่นักเทรดต้องพิจารณาในการเทรดระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลกมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจากธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2023-2024 อาจส่งผลต่ออัตรา Swap ของคู่สกุลเงินหลัก ๆ อย่าง EUR/USD และ GBP/USD

สรุป:

Swap ในการเทรด Forex เป็นปัจจัยที่นักเทรดต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักเทรดที่ถือครองตำแหน่งข้ามคืน การทำความเข้าใจและคำนวณอัตราสวอปได้อย่างถูกต้องจะช่วยให้นักเทรดสามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงจากการจ่ายดอกเบี้ยที่ไม่จำเป็น