Login
Sign Up
OR
Forgotten Password
Login
This site is protected by reCAPTCHA and the Google Privacy Policy and Terms of Service apply.
English
中文
日本語
ID
Vietnam
한국어
Filipino
   Academy Menu

12 กลยุทธ์การเทรด Forex ที่ไม่ควรพลาดในปี 2024 ที่มือใหม่ต้องศึกษา

การเทรด Forex เป็นการลงทุนที่มีความท้าทายและโอกาสในการทำกำไรที่สูง แต่เพื่อประสบความสำเร็จในตลาดนี้ นักเทรดจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนและสามารถนำไปใช้ได้จริง ปี 2024 นี้มีหลายกลยุทธ์ที่มือใหม่ต้องศึกษาเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยง วันนี้เราจะมาดูกลยุทธ์การเทรดที่น่าสนใจ 12 กลยุทธ์ที่ควรเรียนรู้

1. กลยุทธ์การเทรดแบบ Scalping

Scalping เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการเปิดและปิดคำสั่งในระยะเวลาสั้น ๆ โดยมีเป้าหมายคือการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่เล็กมาก นักเทรดที่ใช้กลยุทธ์นี้ต้องทำการเทรดหลายครั้งต่อวันโดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น อินดิเคเตอร์ Moving Average หรือ Bollinger Bands เพื่อหาจุดเข้าและออกที่เหมาะสม

2. กลยุทธ์การเทรดแบบ Day Trading

Day Trading เป็นการเทรดที่เน้นการซื้อขายภายในวันเดียวกัน โดยไม่เก็บคำสั่งค้างไว้ข้ามคืน กลยุทธ์นี้เหมาะกับผู้ที่มีเวลามากพอในการติดตามการเคลื่อนไหวของตลาด การวิเคราะห์เทรนด์และกราฟราคาในกรอบเวลาสั้นๆ เช่น กรอบเวลา 15 นาทีหรือ 1 ชั่วโมง จะช่วยให้นักเทรดสามารถหาจังหวะในการเปิดคำสั่งซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. กลยุทธ์การเทรดแบบ Swing Trading

กลยุทธ์นี้เป็นการเทรดที่ใช้เวลาในการเก็บคำสั่งซื้อขายในระยะกลางตั้งแต่หลายวันไปจนถึงหลายสัปดาห์ กลยุทธ์นี้เน้นการจับเทรนด์ระยะกลาง โดยใช้การวิเคราะห์กราฟในกรอบเวลายาวขึ้น เช่น กรอบเวลา 4 ชั่วโมงหรือ 1 วัน เพื่อตรวจจับจุดกลับตัวของตลาดหรือเทรนด์ใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น

4. กลยุทธ์การเทรดตามเทรนด์ (Trend Following)

กลยุทธ์ตามเทรนด์เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักเทรดทั้งมือใหม่และมืออาชีพ เนื่องจากการเทรดตามทิศทางของเทรนด์หลักมักจะเป็นการเทรดที่มีโอกาสทำกำไรสูง โดยใช้เครื่องมือช่วยในการหาสัญญาณเช่น Moving Average และ MACD เพื่อยืนยันทิศทางของเทรนด์และจังหวะในการเปิดคำสั่ง

5. กลยุทธ์การเทรดแบบ Breakout

Breakout เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการเปิดคำสั่งเมื่อราคาฝ่าด่านแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ กลยุทธ์นี้มักใช้ในการเทรดช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง การเทรดตาม Breakout จะช่วยให้นักเทรดสามารถเข้าไปในจังหวะที่ตลาดเริ่มเคลื่อนที่แรงและทำกำไรได้จากการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว

6. กลยุทธ์การเทรดแบบ Carry Trade

Carry Trade เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ประโยชน์จากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสองสกุลเงิน การเปิดคำสั่งซื้อขายในสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงและขายสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ นักเทรดสามารถทำกำไรได้ทั้งจากการเคลื่อนไหวของราคาและส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย

7. กลยุทธ์การเทรดแบบ Fibonacci Retracement

Fibonacci Retracement เป็นเครื่องมือที่นิยมใช้ในการวิเคราะห์จุดกลับตัวของราคา กลยุทธ์นี้มักจะใช้ในการหาจุดที่ราคามีโอกาสกลับตัวหรือทำการย่อตัวเพื่อหาจุดเข้าซื้อขายที่ดี โดยการใช้ระดับ Fibonacci เช่น 38.2%, 50%, และ 61.8% ในการหาจุดที่ราคามักจะกลับตัว

8. กลยุทธ์การเทรดด้วยอินดิเคเตอร์ RSI

RSI (Relative Strength Index) เป็นอินดิเคเตอร์ที่ช่วยวัดความแรงของเทรนด์และบอกจุดที่ตลาดมีการซื้อขายมากเกินไปหรือขายมากเกินไป กลยุทธ์นี้เน้นการซื้อเมื่อ RSI ต่ำกว่า 30 (ตลาดขายมากเกินไป) และขายเมื่อ RSI สูงกว่า 70 (ตลาดซื้อมากเกินไป)

9. กลยุทธ์การเทรดด้วย Bollinger Bands

Bollinger Bands เป็นเครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์ความผันผวนของตลาด กลยุทธ์นี้มักใช้ในการหาจุดเข้าซื้อขายเมื่อราคาเคลื่อนไหวใกล้กับเส้นขอบบนหรือล่างของ Bollinger Bands การเทรดเมื่อราคากลับไปทดสอบเส้นขอบเหล่านี้สามารถช่วยให้นักเทรดทำกำไรจากการกลับตัวของราคาได้

10. กลยุทธ์การเทรดแบบ Position Trading

Position Trading เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการเก็บคำสั่งซื้อขายในระยะยาวตั้งแต่หลายเดือนถึงหลายปี กลยุทธ์นี้เหมาะกับนักลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจในแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลต่อสกุลเงินต่างๆ การเทรดในลักษณะนี้จะเน้นการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานมากกว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิค

11. กลยุทธ์การเทรดด้วย Price Action

Price Action เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการวิเคราะห์พฤติกรรมของราคาโดยไม่ใช้อินดิเคเตอร์เพิ่มเติม การเทรดตาม Price Action มักใช้กราฟแท่งเทียน (Candlestick) เพื่อหาสัญญาณกลับตัวและจุดเข้าซื้อขาย กลยุทธ์นี้ต้องการความเชี่ยวชาญในการอ่านกราฟและการประเมินสภาพตลาดแบบละเอียด

12. กลยุทธ์การเทรดด้วยข่าวสาร (News Trading)

การเทรดด้วยข่าวสารเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกที่มีผลกระทบต่อตลาดการเงิน เช่น การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ การประชุมของธนาคารกลาง และเหตุการณ์ทางการเมือง นักเทรดที่ใช้กลยุทธ์นี้ต้องมีความสามารถในการวิเคราะห์ข่าวและความสัมพันธ์กับตลาด Forex ในช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูง

สรุป

กลยุทธ์การเทรดทั้ง 12 รูปแบบนี้เป็นแนวทางที่นักเทรดในปี 2024 ควรศึกษาและนำไปปรับใช้ตามสไตล์การเทรดของตนเอง แต่ละกลยุทธ์มีจุดเด่นและวิธีการใช้งานที่แตกต่างกัน การศึกษาข้อมูลและทดสอบกลยุทธ์ผ่านบัญชี Demo จะช่วยให้นักเทรดสามารถเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด

CONTINUE TO SITE