Login
Sign Up
OR
Forgotten Password
Login
This site is protected by reCAPTCHA and the Google Privacy Policy and Terms of Service apply.
English
中文
日本語
ID
Vietnam
한국어
Filipino
   Academy Menu

กลยุทธ์เทรดระยะสั้น 3 แบบ ที่นักเทรดนิยมใช้ ได้ผลจริง!

การเทรด Forex ระยะสั้นเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักเทรดทั้งมือใหม่และมืออาชีพ เนื่องจากเป็นวิธีที่สามารถทำกำไรได้ในระยะเวลาสั้นๆ หากนักเทรดมีแผนการและกลยุทธ์ที่เหมาะสม การเทรดระยะสั้นมีข้อดีคือการทำกำไรอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน ดังนั้นการมีกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพและทดสอบมาแล้วว่าทำงานได้จริงจึงเป็นสิ่งสำคัญ ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงกลยุทธ์เทรดระยะสั้นที่นักเทรดนิยมใช้และได้ผลจริง

1. กลยุทธ์ Scalping

กลยุทธ์ Scalping เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การเทรดระยะสั้นที่นักเทรดใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากเป็นการเน้นทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ มักจะเปิดและปิดคำสั่งซื้อขายภายในไม่กี่นาทีหรือไม่กี่วินาที โดยเป้าหมายหลักของกลยุทธ์นี้คือการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาเล็กน้อยบ่อยครั้งในหนึ่งวัน

นักเทรดที่ใช้กลยุทธ์ Scalping มักจะใช้ กรอบเวลา 1 นาที หรือ 5 นาที ในการเทรด และเลือกคู่เงินที่มีสภาพคล่องสูง เช่น EUR/USD หรือ GBP/USD เพราะคู่เงินเหล่านี้มีการเคลื่อนไหวตลอดทั้งวัน การใช้ อินดิเคเตอร์ Bollinger Bands หรือ Moving Average เป็นเครื่องมือช่วยในการตรวจจับจุดเข้าซื้อขายที่แม่นยำ และเป็นการลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด

การเทรดด้วยกลยุทธ์ Scalping ต้องการความรวดเร็วในการตัดสินใจและความสามารถในการควบคุมอารมณ์เป็นอย่างมาก เนื่องจากการซื้อขายบ่อยครั้งในระยะเวลาสั้นๆ อาจนำไปสู่การสูญเสียหากไม่มีการวางแผนและจัดการความเสี่ยงที่ดี

2. กลยุทธ์ Breakout Trading ระยะสั้น

Breakout Trading เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่นิยมใช้ในการเทรดระยะสั้น โดยนักเทรดจะทำการเปิดคำสั่งซื้อขายเมื่อราคาฝ่าแนวรับหรือแนวต้านที่แข็งแกร่ง โดยการ Breakout ของราคามักจะเกิดขึ้นเมื่อมีข่าวสารสำคัญหรือการเคลื่อนไหวของตลาดในช่วงที่มีความผันผวนสูง

กลยุทธ์ Breakout ที่ใช้ในการเทรดระยะสั้นมักจะพิจารณากรอบเวลา 15 นาที หรือ 30 นาที โดยเครื่องมือที่นิยมใช้ในการตรวจจับ Breakout ได้แก่ Volume Indicator ซึ่งช่วยบอกว่ายอดปริมาณการซื้อขายในช่วงที่ราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านเป็นอย่างไร หากมีปริมาณการซื้อขายสูงในขณะที่ราคาเกิด Breakout นั่นหมายถึงมีความน่าจะเป็นสูงที่ราคาจะเคลื่อนไหวต่อเนื่องไปในทิศทางเดียวกัน

การวาง Stop Loss ในกลยุทธ์นี้เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากการ Breakout อาจมีการย้อนกลับหรือผิดพลาด การใช้ Stop Loss ที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันการขาดทุนอย่างหนักหากการเคลื่อนไหวของราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์

3. กลยุทธ์ Moving Average Crossover

กลยุทธ์การเทรดด้วย Moving Average Crossover เป็นกลยุทธ์ที่นักเทรดระยะสั้นใช้ในการตรวจจับจุดเข้าซื้อและขายในตลาด โดยใช้เส้น Moving Average สองเส้นที่มีช่วงเวลาต่างกันเพื่อตรวจจับการกลับตัวของราคา ซึ่งจะใช้ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้น (เช่น 9 หรือ 12 ช่วง) และ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาว (เช่น 26 หรือ 50 ช่วง)

หลักการของกลยุทธ์นี้คือ เมื่อเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นตัดขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาว จะเป็นสัญญาณซื้อ และเมื่อตัดลงมาจะเป็นสัญญาณขาย กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับนักเทรดที่ไม่ต้องการติดตามตลาดตลอดเวลา แต่ต้องการสัญญาณที่ชัดเจนในการเปิดคำสั่งซื้อขาย

การใช้กรอบเวลา 15 นาที หรือ 1 ชั่วโมง เป็นที่นิยมสำหรับนักเทรดที่ใช้กลยุทธ์นี้ในการเทรดระยะสั้น การจัดการความเสี่ยงและการตั้งค่า Stop Loss เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพราะการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นมักมีความผันผวนสูง

สรุป

ทั้ง 3 กลยุทธ์ที่กล่าวถึง ได้แก่ Scalping, Breakout Trading และ Moving Average Crossover เป็นกลยุทธ์เทรดระยะสั้นที่นักเทรดนิยมใช้ทั่วโลกและได้ผลจริง การเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดและความสะดวกในการติดตามตลาดของนักเทรดแต่ละคน อย่างไรก็ตาม การวางแผนและการจัดการความเสี่ยงที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญในการประสบความสำเร็จในการเทรดระยะสั้น

CONTINUE TO SITE