Exness: Premium Trading on Forex, Gold & Crypto. Your search for the BEST SPREAD ends here!
การเทรด Forex ระยะสั้นเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักเทรดทั้งมือใหม่และมืออาชีพ เนื่องจากเป็นวิธีที่สามารถทำกำไรได้ในระยะเวลาสั้นๆ หากนักเทรดมีแผนการและกลยุทธ์ที่เหมาะสม การเทรดระยะสั้นมีข้อดีคือการทำกำไรอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน ดังนั้นการมีกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพและทดสอบมาแล้วว่าทำงานได้จริงจึงเป็นสิ่งสำคัญ ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงกลยุทธ์เทรดระยะสั้นที่นักเทรดนิยมใช้และได้ผลจริง
กลยุทธ์ Scalping เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การเทรดระยะสั้นที่นักเทรดใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากเป็นการเน้นทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ มักจะเปิดและปิดคำสั่งซื้อขายภายในไม่กี่นาทีหรือไม่กี่วินาที โดยเป้าหมายหลักของกลยุทธ์นี้คือการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาเล็กน้อยบ่อยครั้งในหนึ่งวัน
นักเทรดที่ใช้กลยุทธ์ Scalping มักจะใช้ กรอบเวลา 1 นาที หรือ 5 นาที ในการเทรด และเลือกคู่เงินที่มีสภาพคล่องสูง เช่น EUR/USD หรือ GBP/USD เพราะคู่เงินเหล่านี้มีการเคลื่อนไหวตลอดทั้งวัน การใช้ อินดิเคเตอร์ Bollinger Bands หรือ Moving Average เป็นเครื่องมือช่วยในการตรวจจับจุดเข้าซื้อขายที่แม่นยำ และเป็นการลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด
การเทรดด้วยกลยุทธ์ Scalping ต้องการความรวดเร็วในการตัดสินใจและความสามารถในการควบคุมอารมณ์เป็นอย่างมาก เนื่องจากการซื้อขายบ่อยครั้งในระยะเวลาสั้นๆ อาจนำไปสู่การสูญเสียหากไม่มีการวางแผนและจัดการความเสี่ยงที่ดี
Breakout Trading เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่นิยมใช้ในการเทรดระยะสั้น โดยนักเทรดจะทำการเปิดคำสั่งซื้อขายเมื่อราคาฝ่าแนวรับหรือแนวต้านที่แข็งแกร่ง โดยการ Breakout ของราคามักจะเกิดขึ้นเมื่อมีข่าวสารสำคัญหรือการเคลื่อนไหวของตลาดในช่วงที่มีความผันผวนสูง
กลยุทธ์ Breakout ที่ใช้ในการเทรดระยะสั้นมักจะพิจารณากรอบเวลา 15 นาที หรือ 30 นาที โดยเครื่องมือที่นิยมใช้ในการตรวจจับ Breakout ได้แก่ Volume Indicator ซึ่งช่วยบอกว่ายอดปริมาณการซื้อขายในช่วงที่ราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านเป็นอย่างไร หากมีปริมาณการซื้อขายสูงในขณะที่ราคาเกิด Breakout นั่นหมายถึงมีความน่าจะเป็นสูงที่ราคาจะเคลื่อนไหวต่อเนื่องไปในทิศทางเดียวกัน
การวาง Stop Loss ในกลยุทธ์นี้เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากการ Breakout อาจมีการย้อนกลับหรือผิดพลาด การใช้ Stop Loss ที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันการขาดทุนอย่างหนักหากการเคลื่อนไหวของราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์
กลยุทธ์การเทรดด้วย Moving Average Crossover เป็นกลยุทธ์ที่นักเทรดระยะสั้นใช้ในการตรวจจับจุดเข้าซื้อและขายในตลาด โดยใช้เส้น Moving Average สองเส้นที่มีช่วงเวลาต่างกันเพื่อตรวจจับการกลับตัวของราคา ซึ่งจะใช้ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้น (เช่น 9 หรือ 12 ช่วง) และ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาว (เช่น 26 หรือ 50 ช่วง)
หลักการของกลยุทธ์นี้คือ เมื่อเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นตัดขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาว จะเป็นสัญญาณซื้อ และเมื่อตัดลงมาจะเป็นสัญญาณขาย กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับนักเทรดที่ไม่ต้องการติดตามตลาดตลอดเวลา แต่ต้องการสัญญาณที่ชัดเจนในการเปิดคำสั่งซื้อขาย
การใช้กรอบเวลา 15 นาที หรือ 1 ชั่วโมง เป็นที่นิยมสำหรับนักเทรดที่ใช้กลยุทธ์นี้ในการเทรดระยะสั้น การจัดการความเสี่ยงและการตั้งค่า Stop Loss เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพราะการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นมักมีความผันผวนสูง
ทั้ง 3 กลยุทธ์ที่กล่าวถึง ได้แก่ Scalping, Breakout Trading และ Moving Average Crossover เป็นกลยุทธ์เทรดระยะสั้นที่นักเทรดนิยมใช้ทั่วโลกและได้ผลจริง การเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดและความสะดวกในการติดตามตลาดของนักเทรดแต่ละคน อย่างไรก็ตาม การวางแผนและการจัดการความเสี่ยงที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญในการประสบความสำเร็จในการเทรดระยะสั้น