Login
Sign Up
OR
Forgotten Password
Login
This site is protected by reCAPTCHA and the Google Privacy Policy and Terms of Service apply.
English
中文
日本語
ID
Vietnam
한국어
Filipino
   Academy Menu

7 สกุลเงินคู่หลัก (Major Currency Pairs) ในการเทรด Forex

1. บทนำ
การเทรด Forex นั้นประกอบด้วยการแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ ซึ่งในตลาดนี้มีการซื้อขายคู่สกุลเงินจำนวนมาก แต่คู่สกุลเงินที่มีความสำคัญและมีการซื้อขายมากที่สุดคือ "7 สกุลเงินคู่หลัก" หรือ Major Currency Pairs ซึ่งเป็นคู่สกุลเงินที่ประกอบด้วยสกุลเงินจากประเทศเศรษฐกิจหลักของโลก เช่น สหรัฐอเมริกา ยูโรโซน ญี่ปุ่น และอื่น ๆ คู่สกุลเงินเหล่านี้มีความผันผวนต่ำ แต่มีสภาพคล่องสูง ทำให้นักเทรดทั้งมือใหม่และมืออาชีพนิยมเลือกเทรดสกุลเงินเหล่านี้

2. สกุลเงินคู่หลัก (Major Currency Pairs) มีอะไรบ้าง
สกุลเงินคู่หลักเป็นคู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายสูงสุดในตลาด Forex ประกอบด้วย 7 คู่สกุลเงินดังนี้:

  • EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐฯ)

  • USD/JPY (ดอลลาร์สหรัฐฯ/เยนญี่ปุ่น)

  • GBP/USD (ปอนด์อังกฤษ/ดอลลาร์สหรัฐฯ)

  • AUD/USD (ดอลลาร์ออสเตรเลีย/ดอลลาร์สหรัฐฯ)

  • USD/CHF (ดอลลาร์สหรัฐฯ/ฟรังก์สวิส)

  • USD/CAD (ดอลลาร์สหรัฐฯ/ดอลลาร์แคนาดา)

  • NZD/USD (ดอลลาร์นิวซีแลนด์/ดอลลาร์สหรัฐฯ)

คู่สกุลเงินเหล่านี้เป็นที่นิยมเนื่องจากประเทศที่เกี่ยวข้องมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมือง ทำให้มีสภาพคล่องสูง และมีการวิเคราะห์เชิงลึกจากหลายแหล่งข่าวสาร ทำให้นักเทรดสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการวางกลยุทธ์การเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. EUR/USD: คู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุด
คู่สกุลเงิน EUR/USD เป็นคู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดในตลาด Forex ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 24% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดในตลาดโลก ความสัมพันธ์ระหว่างเศรษฐกิจของยูโรโซนและสหรัฐอเมริกานั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเคลื่อนไหวของราคา ซึ่งนักลงทุนจะติดตามตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ เช่น อัตราการว่างงาน อัตราดอกเบี้ย และการเติบโตของ GDP ในสองภูมิภาคนี้เพื่อพยากรณ์ทิศทางของคู่สกุลเงิน

4. USD/JPY: คู่สกุลเงินที่มีความผันผวนต่ำ
คู่สกุลเงิน USD/JPY เป็นคู่ที่มีความผันผวนต่ำ แต่มีความนิยมสูงเนื่องจากญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่อันดับสามของโลก และเยนญี่ปุ่นถือเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัยในช่วงวิกฤตทางเศรษฐกิจ เมื่อมีความไม่แน่นอนในตลาดโลก นักลงทุนมักจะเปลี่ยนมาลงทุนในสกุลเงินเยนเพื่อป้องกันความเสี่ยง ทำให้ USD/JPY เป็นคู่สกุลเงินที่น่าสนใจในการติดตาม

5. GBP/USD: ความสัมพันธ์ระหว่างเศรษฐกิจอังกฤษและสหรัฐฯ
GBP/USD เป็นอีกหนึ่งคู่สกุลเงินหลักที่นักเทรดให้ความสนใจ ด้วยการที่สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาเป็นสองประเทศที่มีอิทธิพลทางเศรษฐกิจสูง โดยเฉพาะในช่วงเวลาของ Brexit ค่าเงินปอนด์มีความผันผวนสูงมาก ซึ่งทำให้คู่ GBP/USD เป็นที่นิยมสำหรับนักเทรดที่ต้องการเทรดในช่วงที่มีความผันผวนมากขึ้น

6. AUD/USD, USD/CHF และ USD/CAD: สกุลเงินที่ขึ้นกับทรัพยากรธรรมชาติ
คู่สกุลเงิน AUD/USD, USD/CHF และ USD/CAD ต่างก็มีความสัมพันธ์กับตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมันและทองคำ สกุลเงิน AUD และ CAD มักจะเคลื่อนไหวตามราคาทองคำและน้ำมัน ในขณะที่ CHF (ฟรังก์สวิส) เป็นสกุลเงินที่ถูกมองว่าเป็นแหล่งหลบภัยเมื่อตลาดโลกมีความไม่แน่นอน ตัวอย่างเช่น เมื่อราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น ค่าเงิน CAD มักจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากแคนาดาเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก

7. NZD/USD: สกุลเงินของตลาดเกษตรกรรม
คู่สกุลเงิน NZD/USD มีความสัมพันธ์กับราคาสินค้าเกษตร โดยนิวซีแลนด์เป็นประเทศที่ส่งออกสินค้าเกษตรจำนวนมาก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จากนม นักเทรดมักจะติดตามข่าวสารเกี่ยวกับผลผลิตทางการเกษตรและความต้องการสินค้าเกษตรในตลาดโลกเพื่อพยากรณ์ทิศทางของคู่สกุลเงินนี้

8. การเทรดคู่สกุลเงินหลักและสภาพคล่องในตลาด
คู่สกุลเงินหลักเหล่านี้มีสภาพคล่องสูง เนื่องจากมีนักลงทุนและสถาบันการเงินขนาดใหญ่ทั่วโลกทำการซื้อขายอยู่เสมอ นอกจากนี้ คู่สกุลเงินเหล่านี้ยังมีสเปรดที่ต่ำ ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับนักเทรดที่ต้องการทำกำไรจากความผันผวนของราคาในระยะสั้น

ในปี 2022 ข้อมูลจาก BIS แสดงให้เห็นว่าตลาด Forex มีมูลค่าการซื้อขายรวมต่อวันสูงถึง 6.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยคู่สกุลเงินหลักทั้ง 7 คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 70% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด สถิตินี้บ่งบอกถึงความสำคัญของการเลือกเทรดในคู่สกุลเงินที่มีสภาพคล่องสูงเพื่อลดความเสี่ยงในการเทรดและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

9. บทสรุป
7 สกุลเงินคู่หลักในการเทรด Forex เป็นสกุลเงินที่มีความสำคัญและมีการซื้อขายมากที่สุดในตลาด เนื่องจากมีสภาพคล่องสูง ความผันผวนที่เหมาะสม และมีข้อมูลที่นักเทรดสามารถวิเคราะห์ได้อย่างละเอียด การเลือกเทรดในคู่สกุลเงินเหล่านี้สามารถช่วยให้นักเทรดมีโอกาสทำกำไรได้มากขึ้น