สมัคร exness เปิดบัญชี ได้กี่บัญชี พร้อมกับรายละเอียดแต่ละบัญชี

การเปิดบัญชีใน Exness เป็นขั้นตอนที่ง่ายและเหมาะสำหรับผู้ที่สนใจในการทำกำไรผ่านการซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) โดย Exness นั้นเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ชั้นนำที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากทั้งนักเทรดมือใหม่และนักเทรดที่มีประสบการณ์ ในการเปิดบัญชีกับ Exness คุณสามารถเปิดบัญชีได้หลายประเภทขึ้นอยู่กับความต้องการและเป้าหมายของคุณ ซึ่งบัญชีแต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป เพื่อให้ตรงกับความต้องการของนักเทรดทุกกลุ่ม

ประเภทของบัญชีใน Exness

Exness ให้บริการประเภทบัญชีที่หลากหลายเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ในทุกระดับ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ บัญชีมาตรฐาน (Standard Account) และ บัญชีมืออาชีพ (Professional Account) โดยในแต่ละประเภทมีบัญชีย่อยที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป

1. บัญชีมาตรฐาน (Standard Account)

บัญชีมาตรฐานเป็นประเภทบัญชีที่เหมาะสำหรับนักเทรดมือใหม่หรือผู้ที่ต้องการเริ่มต้นทำการซื้อขายในตลาด Forex โดยบัญชีนี้เป็นที่นิยมมากที่สุดในแพลตฟอร์ม Exness

คุณสมบัติหลักของบัญชีมาตรฐาน:

• สเปรดเริ่มต้นที่ 0.3 pips

• ไม่มีค่าคอมมิชชั่นในการซื้อขาย

• เลเวอเรจสูงสุด 1:2000

• เงินฝากขั้นต่ำเริ่มต้นที่ $1

• สามารถใช้ซื้อขายในคู่สกุลเงิน, ทองคำ, น้ำมัน, และดัชนีอื่น ๆ ได้

บัญชีมาตรฐานนี้มีความยืดหยุ่นสูงและสามารถใช้ได้กับแพลตฟอร์ม MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับตนเองได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ Exness ยังมีการอัปเดตสเปรดและราคาที่ทันสมัยตลอดเวลา ซึ่งเป็นจุดเด่นสำหรับนักเทรดที่ต้องการทำการซื้อขายในเวลาจริง

2. บัญชี Standard Cent

บัญชี Standard Cent เป็นอีกหนึ่งประเภทบัญชีที่อยู่ในกลุ่มบัญชีมาตรฐานและเหมาะสำหรับนักเทรดที่มีเงินทุนเริ่มต้นน้อยหรือผู้ที่ต้องการทดลองกลยุทธ์การเทรดใหม่ ๆ โดยไม่ต้องเสี่ยงกับเงินจำนวนมาก

คุณสมบัติของบัญชี Standard Cent:

• สามารถเริ่มต้นซื้อขายด้วยเงินเพียง 1 เซนต์

• สเปรดเริ่มต้นที่ 0.3 pips

• ไม่มีค่าคอมมิชชั่น

• เหมาะสำหรับการฝึกฝนและทดสอบกลยุทธ์

บัญชีนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักเทรดที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการซื้อขาย หรือผู้ที่ต้องการทดลองใช้งานแพลตฟอร์ม Exness ก่อนที่จะทำการฝากเงินในปริมาณมากขึ้น

3. บัญชีมืออาชีพ (Professional Account)

สำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์และต้องการเข้าถึงเครื่องมือการซื้อขายขั้นสูง บัญชีมืออาชีพเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ บัญชีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการเทรดที่มีปริมาณมากและมีการดำเนินการที่รวดเร็ว

ประเภทบัญชีย่อยในกลุ่มบัญชีมืออาชีพ ได้แก่:

3.1 บัญชี Raw Spread

บัญชี Raw Spread เป็นบัญชีที่มีสเปรดต่ำมาก โดยเริ่มต้นจาก 0 pips ทำให้นักเทรดสามารถซื้อขายในราคาที่ใกล้เคียงกับตลาดจริงมากที่สุด บัญชีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้กลยุทธ์การเทรดที่แม่นยำสูง เช่น การเทรดระยะสั้น (Scalping) หรือการเทรดแบบอัตโนมัติ (Algorithmic Trading)

คุณสมบัติของบัญชี Raw Spread:

• สเปรดเริ่มต้นที่ 0 pips

• ค่าคอมมิชชั่น $3.5 ต่อฝั่งการซื้อขาย

• เลเวอเรจสูงสุด 1:2000

• เหมาะสำหรับการซื้อขายในตลาดที่มีความผันผวนต่ำ

3.2 บัญชี Zero Spread

บัญชี Zero Spread เป็นบัญชีที่มีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นต่อการซื้อขาย แต่ไม่มีสเปรดระหว่างราคาเสนอซื้อและขาย เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการความแน่นอนในเรื่องของต้นทุนการซื้อขาย โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง

คุณสมบัติของบัญชี Zero Spread:

• สเปรด 0 pips

• ค่าคอมมิชชั่นขึ้นอยู่กับปริมาณการซื้อขาย

• สามารถซื้อขายในคู่สกุลเงินหลักและทองคำ

3.3 บัญชี Pro

บัญชี Pro เป็นบัญชีที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักเทรดมืออาชีพเนื่องจากมีเงื่อนไขการซื้อขายที่ยืดหยุ่น ไม่มีค่าคอมมิชชั่น และสเปรดต่ำ เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการใช้ประโยชน์จากการเทรดระยะกลางถึงระยะยาว

คุณสมบัติของบัญชี Pro:

• สเปรดเริ่มต้นที่ 0.1 pips

• ไม่มีค่าคอมมิชชั่น

• เลเวอเรจสูงสุด 1:2000

• เหมาะสำหรับการซื้อขายในสินทรัพย์หลากหลายประเภท

การเลือกประเภทบัญชีที่เหมาะสม

การเลือกประเภทบัญชีที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณขึ้นอยู่กับระดับประสบการณ์และกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ หากคุณเป็นนักเทรดมือใหม่ บัญชี Standard หรือ Standard Cent อาจเป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากความง่ายในการใช้งานและความเสี่ยงที่ต่ำกว่า ในขณะที่นักเทรดที่มีประสบการณ์อาจพบว่าบัญชี Raw Spread หรือบัญชี Pro เหมาะสมกับกลยุทธ์ที่ซับซ้อนและการเทรดปริมาณมาก

ข้อดีของการเปิดบัญชีกับ Exness

Exness เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลและมีการบริหารจัดการที่โปร่งใส โดยมีข้อดีหลายประการที่ทำให้นักเทรดเลือกใช้บริการ

ข้อดีของการเปิดบัญชีกับ Exness:

1. ความปลอดภัย: Exness มีการกำกับดูแลโดยหน่วยงานทางการเงินที่เชื่อถือได้ เช่น FCA และ CySEC ทำให้นักเทรดสามารถมั่นใจในความปลอดภัยของเงินทุน

2. สเปรดต่ำ: ด้วยสเปรดเริ่มต้นที่ 0 pips สำหรับบัญชี Raw Spread และ Zero Spread ทำให้นักเทรดสามารถลดต้นทุนในการซื้อขายได้อย่างมาก

3. การดำเนินการที่รวดเร็ว: Exness มีระบบการดำเนินการที่รวดเร็ว ทำให้คำสั่งซื้อขายถูกประมวลผลในเวลาเพียงเสี้ยววินาที

4. เลเวอเรจสูง: นักเทรดสามารถใช้เลเวอเรจสูงสุดถึง 1:2000 ซึ่งเพิ่มโอกาสในการทำกำไร แม้จะมีทุนเริ่มต้นน้อย

5. การสนับสนุนหลายภาษา: Exness ให้บริการลูกค้าหลากหลายภาษา รวมถึงการสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมง

สรุป

การเปิดบัญชีกับ Exness นั้นให้ความยืดหยุ่นและความสะดวกสบายในการเลือกประเภทบัญชีที่ตรงกับความต้องการของนักเทรดในทุกระดับ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเทรดมือใหม่หรือมีประสบการณ์ การเลือกประเภทบัญชีที่เหมาะสมสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการซื้อขายในตลาด Forex ได้อย่างมีประสิทธิภาพ