Login
Sign Up
OR
Forgotten Password
Login
This site is protected by reCAPTCHA and the Google Privacy Policy and Terms of Service apply.
English
中文
日本語
ID
Vietnam
한국어
Filipino
   Academy Menu

สัญญาซื้อขายล่วงหน้า CFD กับ Futures

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ได้รับความนิยมในตลาดการลงทุน ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลักที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ได้แก่ Contract for Difference (CFD) และ Futures ทั้งสองเครื่องมือมีความคล้ายคลึงกันในแง่ของการเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ แต่มีความแตกต่างที่สำคัญในเรื่องของโครงสร้างสัญญาและรูปแบบการเทรด ในบทความนี้เราจะเจาะลึกถึงความแตกต่างระหว่าง CFD และ Futures รวมถึงแพลตฟอร์มที่ให้บริการการเทรดเหล่านี้

CFD คืออะไร?

Contract for Difference (CFD) เป็นสัญญาที่ทำขึ้นระหว่างนักลงทุนและโบรกเกอร์ โดยนักลงทุนจะได้รับหรือเสียเงินตามส่วนต่างของราคาสินทรัพย์ในช่วงเวลาที่เปิดและปิดสัญญา CFD มีความยืดหยุ่นสูง นักลงทุนไม่จำเป็นต้องครอบครองสินทรัพย์จริง แต่สามารถเก็งกำไรได้จากความผันผวนของราคาสินทรัพย์ เช่น หุ้น ดัชนี สกุลเงิน และสินค้าโภคภัณฑ์

แพลตฟอร์มที่ให้บริการการเทรด CFD ที่มีชื่อเสียง เช่น eToro และ Plus500 นำเสนอตลาดที่กว้างขวางสำหรับนักลงทุนในการเลือกเทรด CFD ในสินทรัพย์หลากหลายประเภท นักลงทุนสามารถทำกำไรได้ทั้งในสภาวะตลาดขาขึ้นและขาลง โดยเปิดตำแหน่ง "long" เมื่อคาดว่าราคาจะขึ้น และเปิดตำแหน่ง "short" เมื่อคาดว่าราคาจะลดลง

Futures คืออะไร?

สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) คือข้อตกลงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในการซื้อหรือขายสินทรัพย์ตามราคาที่กำหนดในปัจจุบัน แต่การส่งมอบสินทรัพย์นั้นจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งสัญญานี้มีมาตรฐานที่ชัดเจนในเรื่องของปริมาณ คุณภาพ และเวลาส่งมอบ Futures ใช้ในการเก็งกำไรหรือการป้องกันความเสี่ยง (hedging) ซึ่งต่างจาก CFD ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการส่งมอบสินทรัพย์จริง

ในประเทศไทย สัญญาซื้อขายล่วงหน้าสามารถซื้อขายได้ในตลาดที่มีการควบคุม เช่น ตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทย (TFEX) ซึ่งเป็นตลาดที่เน้นการซื้อขาย Futures ของสินทรัพย์เช่น ดัชนีหุ้น SET50, ทองคำ และน้ำมันดิบ ตลาดนี้มีการควบคุมที่ชัดเจนตามกฎหมาย และการซื้อขาย Futures จะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนดโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ความแตกต่างระหว่าง CFD และ Futures

แม้ว่า CFD และ Futures จะเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ใช้ในการเก็งกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ แต่ทั้งสองมีความแตกต่างที่สำคัญในหลายด้าน:

  1. การส่งมอบสินทรัพย์: Futures มีการกำหนดวันที่ส่งมอบสินทรัพย์จริงอย่างชัดเจน โดยทั่วไปจะเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามาก เช่น น้ำมันดิบ ทองคำ หรือสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ในขณะที่ CFD ไม่มีการส่งมอบสินทรัพย์จริง การเทรด CFD เป็นเพียงการเก็งกำไรจากความแตกต่างของราคาเท่านั้น

  2. โครงสร้างของสัญญา: สัญญาซื้อขายล่วงหน้า Futures มีมาตรฐานที่เข้มงวดเกี่ยวกับจำนวน ปริมาณ และคุณภาพของสินทรัพย์ที่ถูกซื้อขาย นักลงทุนต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดโดยตลาดที่เทรด เช่น TFEX ในขณะที่ CFD เป็นสัญญาที่ไม่มีมาตรฐานชัดเจน นักลงทุนสามารถเปิดตำแหน่งในปริมาณเงินที่ตนเองต้องการได้ตามเงื่อนไขของโบรกเกอร์

  3. ตลาดการเทรด: Futures ถูกเทรดในตลาดที่มีการควบคุม เช่นตลาด TFEX ในประเทศไทย หรือตลาด CME (Chicago Mercantile Exchange) ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งการซื้อขายจะถูกตรวจสอบโดยหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล ในทางกลับกัน CFD มักถูกเทรดในตลาด OTC (Over-the-Counter) หรือการซื้อขายที่เกิดขึ้นโดยตรงระหว่างนักลงทุนและโบรกเกอร์โดยไม่มีการเทรดผ่านตลาดกลาง

  4. เลเวอเรจ: การเทรด CFD มักใช้เลเวอเรจสูง ซึ่งเป็นการกู้เงินจากโบรกเกอร์เพื่อลงทุนในจำนวนเงินที่มากกว่าที่นักลงทุนมี ทำให้สามารถเปิดตำแหน่งขนาดใหญ่ขึ้นและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร ในขณะที่ Futures ก็สามารถใช้เลเวอเรจได้เช่นกัน แต่เลเวอเรจใน Futures อาจมีข้อจำกัดที่เข้มงวดกว่าและขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของตลาด

  5. การหมดอายุของสัญญา: Futures มีวันหมดอายุที่ชัดเจน นักลงทุนจะต้องปิดสถานะภายในวันที่กำหนดหรือทำการส่งมอบสินทรัพย์จริงตามเงื่อนไขของสัญญา ในขณะที่ CFD ไม่มีการหมดอายุของสัญญาที่ชัดเจน นักลงทุนสามารถถือสถานะไว้ได้ตราบเท่าที่ต้องการ

การเลือกแพลตฟอร์มในการเทรด CFD และ Futures

สำหรับนักลงทุนที่สนใจเทรด CFD และ Futures การเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการเข้าถึงตลาดและบริหารความเสี่ยง แพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือและมีการให้บริการที่ดีสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงได้:

  • eToro: แพลตฟอร์มการเทรดที่มีชื่อเสียงในการให้บริการ CFD โดยเน้นที่การเทรดในสินทรัพย์หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ดัชนี สกุลเงิน และคริปโทเคอร์เรนซี eToro ยังมีระบบการคัดลอกการเทรด (Copy Trading) ที่ช่วยให้นักลงทุนมือใหม่สามารถคัดลอกกลยุทธ์การเทรดของนักลงทุนมืออาชีพได้

  • Plus500: เป็นโบรกเกอร์ที่ให้บริการการเทรด CFD อย่างครบวงจรในสินทรัพย์หลากหลายประเภท เช่น ฟอเร็กซ์ หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโทเคอร์เรนซี Plus500 มีการนำเสนอเลเวอเรจที่สูงและมีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่นักเทรดที่มองหาโอกาสในการทำกำไรจากความผันผวนของตลาด

  • ตลาด TFEX: สำหรับการเทรด Futures นักลงทุนในประเทศไทยสามารถเข้าเทรดได้ผ่านตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทย (TFEX) ซึ่งเป็นตลาดที่มีการควบคุมโดยตรงจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) การเทรด Futures ผ่าน TFEX มีสินทรัพย์ให้เลือกมากมาย เช่น ดัชนีหุ้น SET50 และทองคำ ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้ในการเก็งกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงจากการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ในอนาคต

ข้อสรุป

สัญญาซื้อขายล่วงหน้า CFD และ Futures มีลักษณะคล้ายกันในเรื่องของการเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ แต่มีความแตกต่างที่สำคัญในเรื่องของโครงสร้างสัญญาและวิธีการเทรด การทำความเข้าใจในข้อดีและข้อเสียของแต่ละเครื่องมือจะช่วยให้นักลงทุนสามารถเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับความต้องการและเป้าหมายของตนเองในการลงทุน

CONTINUE TO SITE