Login
Sign Up
OR
Forgotten Password
Login
This site is protected by reCAPTCHA and the Google Privacy Policy and Terms of Service apply.
English
中文
日本語
ID
Vietnam
한국어
Filipino
   Academy Menu

อธิบายสาเหตุ ราคาทองคำถึงขึ้น แล้วการขึ้นลงของราคาทองเกิดจากอะไร ?

ราคาทองคำเป็นสิ่งที่มีความผันผวนอย่างมากในตลาดการเงิน โดยเฉพาะในตลาด Forex การขึ้นหรือลงของราคาทองคำไม่เพียงแต่เป็นตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญ แต่ยังเป็นผลจากปัจจัยหลายประการที่นักลงทุนทั้งมือใหม่และมืออาชีพควรเข้าใจ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับกลไกที่มีผลต่อราคาทองคำจะช่วยให้นักลงทุนสามารถวางแผนการซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาทองคำขึ้นลง

  1. อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve)

    อัตราดอกเบี้ยเป็นปัจจัยที่มีผลโดยตรงต่อราคาทองคำ เมื่ออัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐลดลง ทองคำจะมีความน่าสนใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุน เนื่องจากการลดอัตราดอกเบี้ยทำให้การถือครองเงินสดในรูปดอลลาร์สหรัฐให้ผลตอบแทนที่น้อยลง ดังนั้นนักลงทุนจะหันมาถือครองทองคำแทน ผลจากการลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงปี 2020 ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นกว่า 25% เนื่องจากนักลงทุนมองหาที่หลบภัยจากการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย

  2. เงินเฟ้อ

    เงินเฟ้อเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น ทองคำถูกมองว่าเป็นเครื่องมือที่สามารถป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้ เนื่องจากมูลค่าของทองคำจะคงอยู่ในระยะยาว ข้อมูลจาก World Gold Council แสดงให้เห็นว่าในช่วงที่เงินเฟ้อในสหรัฐสูงขึ้น ราคาทองคำมักจะปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากนักลงทุนมองว่าการถือครองทองคำช่วยลดความเสี่ยงจากการสูญเสียมูลค่าของเงินสดที่ถูกกระทบจากเงินเฟ้อ

  3. ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ

    ทองคำมีความสัมพันธ์ทางลบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ หากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ราคาทองคำมักจะปรับตัวลง และในทางกลับกัน เมื่อดอลลาร์อ่อนค่าลง ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากทองคำมีการซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ การที่ดอลลาร์อ่อนค่าทำให้ราคาทองคำถูกลงสำหรับนักลงทุนต่างชาติที่ถือเงินสกุลอื่น ข้อมูลสถิติในปี 2022 พบว่าการอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 15%

  4. ความต้องการทองคำในตลาดโลก

    ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อราคาทองคำคือความต้องการในตลาดโลก ประเทศที่เป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ เช่น จีนและอินเดีย มีบทบาทสำคัญในการกำหนดราคา ข้อมูลจากปี 2023 ระบุว่าความต้องการทองคำในประเทศจีนเพิ่มขึ้นถึง 10% ส่งผลให้ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์

  5. สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมือง

    เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมือง เช่น ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ วิกฤตทางการเงิน หรือการระบาดของโรคระบาด มักจะกระตุ้นให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ในช่วงการระบาดของ COVID-19 ในปี 2020 ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากนักลงทุนต้องการสินทรัพย์ที่มั่นคง

แนวโน้มราคาทองคำในอนาคต

การคาดการณ์ราคาทองคำในอนาคตนั้นมักจะขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยทางเศรษฐกิจต่างๆ นักวิเคราะห์ทางการเงินจากธนาคารระหว่างประเทศคาดการณ์ว่าในปี 2024 ราคาทองคำอาจยังคงมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ ข้อมูลจากธนาคารโลกแสดงให้เห็นว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมาได้กดดันราคาทองคำให้ลดลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น นักลงทุนควรติดตามข่าวสารทางเศรษฐกิจและสถานการณ์การเมืองเพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสมกับสภาพตลาด

การวิเคราะห์ราคาทองคำ

นักวิเคราะห์ตลาดมักใช้เครื่องมือทางเทคนิคเพื่อทำนายทิศทางของราคาทองคำ โดยมีเครื่องมือที่นิยมใช้กันเช่น

  1. Moving Average (MA): ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มของราคาทองคำระยะยาว เมื่อนักลงทุนเห็นว่าราคาทองคำเคลื่อนที่ไปตามค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นหรือตัดขึ้นเหนือระยะยาว จะเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาขึ้น

  2. Relative Strength Index (RSI): RSI ใช้ในการประเมินความแข็งแกร่งของราคา หาก RSI ลดต่ำกว่า 30 อาจเป็นสัญญาณว่าราคาทองคำมีโอกาสฟื้นตัวในอนาคต

  3. Fibonacci Retracement: ใช้ระบุแนวรับและแนวต้านของราคาทองคำ นักเทรดมักใช้ Fibonacci ในการหาจุดกลับตัวของราคาเมื่อเกิดการปรับตัวขึ้นหรือลง

บทสรุป

การขึ้นหรือลงของราคาทองคำนั้นเกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น อัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ความต้องการในตลาดโลก และเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมือง การทำความเข้าใจในปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนสามารถคาดการณ์ทิศทางของราคาทองคำได้อย่างแม่นยำมากขึ้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิดและใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในตลาด

CONTINUE TO SITE