Exness: Premium Trading on Forex, Gold & Crypto. Your search for the BEST SPREAD ends here!
ตลาด Forex หรือ Foreign Exchange Market เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินระหว่างประเทศตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ การรู้เวลาเปิด-ปิดของตลาด Forex จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถวางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของตลาดที่เหมาะสม
ตลาด Forex แบ่งออกเป็น 4 ตลาดหลักตามภูมิภาค ได้แก่ ตลาดซิดนีย์ (Sydney), ตลาดโตเกียว (Tokyo), ตลาดลอนดอน (London), และตลาดนิวยอร์ก (New York) ซึ่งแต่ละตลาดมีเวลาเปิด-ปิดแตกต่างกันตามเวลาท้องถิ่นของภูมิภาคนั้น ๆ
ตลาดซิดนีย์:
เปิดทำการตั้งแต่เวลา 05:00 น. - 14:00 น. ตามเวลาในประเทศไทย
ตลาดซิดนีย์เป็นตลาดแรกที่เปิดทำการในช่วงเช้าของวันจันทร์ เหมาะสำหรับนักเทรดที่ชอบการเทรดในช่วงที่ตลาดมีการเคลื่อนไหวของราคาที่น้อยและมีความเสถียรสูง
ตลาดโตเกียว:
เปิดทำการตั้งแต่เวลา 07:00 น. - 16:00 น. ตามเวลาในประเทศไทย
ตลาดโตเกียวเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย มีความเคลื่อนไหวของคู่เงินที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินเยน (JPY) เป็นหลัก การเทรดในตลาดนี้จะมีความผันผวนปานกลาง และเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่เน้นคู่เงินเช่น USD/JPY, EUR/JPY และ GBP/JPY
ตลาดลอนดอน:
เปิดทำการตั้งแต่เวลา 14:00 น. - 23:00 น. ตามเวลาในประเทศไทย
ตลาดลอนดอนเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และเป็นตลาดที่มีปริมาณการซื้อขายมากที่สุดในโลก ตลาดนี้มีความผันผวนสูงและเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเทรดคู่เงินหลัก เช่น EUR/USD, GBP/USD และ USD/CHF
ตลาดนิวยอร์ก:
เปิดทำการตั้งแต่เวลา 19:00 น. - 04:00 น. ตามเวลาในประเทศไทย
ตลาดนิวยอร์กเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ การเปิดทำการของตลาดนิวยอร์กมีความสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของราคาสกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับดอลลาร์สหรัฐ (USD) ซึ่งเป็นสกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลก ช่วงเวลานี้จะเป็นเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูงและมีปริมาณการซื้อขายมาก
ในแต่ละช่วงเวลาที่ตลาดเปิดทำการพร้อมกัน ตลาด Forex จะมีความผันผวนที่แตกต่างกันไป โดยช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูงสุดคือช่วงเวลาที่ตลาดลอนดอนและตลาดนิวยอร์กเปิดทำการพร้อมกัน (19:00 น. - 23:00 น.) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนทั่วโลกเข้ามาซื้อขายในปริมาณมาก
จากข้อมูลของโบรกเกอร์ IC Markets พบว่าคู่เงิน EUR/USD และ GBP/USD มีการเคลื่อนไหวของราคาที่ชัดเจนและมีความผันผวนสูงในช่วงเวลานี้ เพราะเป็นช่วงที่มีข่าวสารทางเศรษฐกิจสำคัญ เช่น การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรป ซึ่งส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของคู่เงินเหล่านี้โดยตรง
นอกจากนี้ ตลาดโตเกียวและตลาดลอนดอนที่เปิดทำการพร้อมกันในช่วงเวลา 07:00 น. - 14:00 น. ก็เป็นช่วงที่เหมาะสำหรับการเทรดคู่เงินที่เกี่ยวข้องกับเงินเยน (JPY) และเงินยูโร (EUR) เพราะมีการซื้อขายที่ปริมาณสูงและสามารถทำกำไรได้จากการเคลื่อนไหวของราคาที่ชัดเจน
การเลือกช่วงเวลาเทรดที่เหมาะสมในตลาด Forex ขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดของนักลงทุน ตัวอย่างเช่น
นักเทรดระยะสั้น (Day Trader):
นักเทรดประเภทนี้มักจะเลือกเทรดในช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูง เช่น ช่วงที่ตลาดลอนดอนและนิวยอร์กเปิดทำการพร้อมกัน เนื่องจากมีการเคลื่อนไหวของราคาที่รวดเร็วและมีโอกาสทำกำไรได้มาก
นักเทรดระยะยาว (Position Trader):
สำหรับนักเทรดที่มุ่งเน้นการถือครองคู่เงินในระยะยาว การเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดมีความเสถียรก็เป็นทางเลือกที่ดี เช่น ช่วงที่ตลาดซิดนีย์และตลาดโตเกียวเปิดทำการ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ราคามักเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ และเหมาะสำหรับการวิเคราะห์แนวโน้มระยะยาว
จากข้อมูลของโบรกเกอร์ FBS ระบุว่าความผันผวนของตลาดในช่วงเวลาที่ตลาดลอนดอนและนิวยอร์กเปิดพร้อมกันสูงถึง 80% ของปริมาณการซื้อขายทั้งหมด ทำให้เป็นช่วงเวลาที่มีการเคลื่อนไหวของราคาแรงและนักเทรดสามารถใช้โอกาสนี้ในการทำกำไร
การเทรด Forex ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเวลาเปิด-ปิดของตลาดเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับข่าวสารและปัจจัยทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อราคาของคู่เงิน เช่น การประกาศอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve), การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป, และสถานการณ์ทางการเมืองโลก
โบรกเกอร์ XM ระบุว่าข่าวสารสำคัญ เช่น การประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm Payrolls) ของสหรัฐ มักจะทำให้ตลาด Forex มีความผันผวนสูง โดยเฉพาะคู่เงิน EUR/USD และ USD/JPY ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากข่าวสารเหล่านี้
ตลาด Forex เปิดทำการ 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ แบ่งออกเป็นตลาดหลัก 4 แห่ง ได้แก่ ซิดนีย์ โตเกียว ลอนดอน และนิวยอร์ก ซึ่งแต่ละตลาดมีความผันผวนและโอกาสทำกำไรที่แตกต่างกัน การเลือกช่วงเวลาเทรดที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดและเป้าหมายของนักลงทุน การเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดลอนดอนและนิวยอร์กเปิดพร้อมกันจะเป็นช่วงที่มีโอกาสทำกำไรสูงสุดเนื่องจากมีปริมาณการซื้อขายที่มากและความผันผวนของราคาที่สูง