Exness: Premium Trading on Forex, Gold & Crypto. Your search for the BEST SPREAD ends here!
การเทรดในตลาด Forex มีรูปแบบการเทรดหลากหลายประเภทที่นักลงทุนสามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสมและความถนัดของตนเอง สองประเภทที่ได้รับความนิยมและมีความสำคัญมากที่สุดคือการเทรดแบบฟิวเจอร์ส (Futures) และการเทรดแบบสปอต (Spot) บทความนี้จะนำเสนอการเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย และความแตกต่างระหว่างฟิวเจอร์ส FX และสปอต FX เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจและเลือกวิธีการเทรดที่เหมาะสมกับตนเองได้
การเทรดฟิวเจอร์ส FX เป็นการทำสัญญาซื้อขายสกุลเงินล่วงหน้า โดยมีการกำหนดราคาซื้อขายและวันที่ส่งมอบในอนาคตอย่างชัดเจน ฟิวเจอร์สเป็นตราสารทางการเงินที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้นักลงทุนสามารถคาดการณ์และป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนในอนาคตได้ การเทรดฟิวเจอร์สมีลักษณะที่แตกต่างจากการเทรดแบบสปอตดังนี้:
การส่งมอบในอนาคต: สัญญาฟิวเจอร์สมีการกำหนดวันที่ส่งมอบในอนาคต ซึ่งเป็นวันที่ผู้ซื้อและผู้ขายต้องทำการชำระเงินและส่งมอบสกุลเงินตามที่ระบุในสัญญา
มาตรฐานการซื้อขาย: สัญญาฟิวเจอร์สมีการกำหนดปริมาณและมูลค่าของสัญญาที่แน่นอน เช่น สัญญาฟิวเจอร์ส USD/EUR มีขนาดสัญญาที่ 125,000 ยูโร
การซื้อขายในตลาดกลาง: การเทรดฟิวเจอร์สมีการซื้อขายในตลาดกลาง เช่น Chicago Mercantile Exchange (CME) ซึ่งมีการควบคุมและดูแลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้มีความปลอดภัยและโปร่งใสมากขึ้น
การเทรดสปอต FX เป็นการซื้อขายสกุลเงินในตลาดแลกเปลี่ยนทันทีหรือ "ตลาดสด" โดยมีการทำธุรกรรมทันทีและการส่งมอบเงินภายใน 2 วันทำการ การเทรดสปอตมีลักษณะดังนี้:
การส่งมอบทันที: การเทรดสปอตมีการส่งมอบเงินภายใน 2 วันทำการหลังจากการทำธุรกรรม ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนเงินตราที่รวดเร็วและไม่ซับซ้อน
ไม่มีการกำหนดปริมาณขั้นต่ำ: การเทรดสปอตไม่มีการกำหนดขนาดของสัญญา นักเทรดสามารถซื้อขายตามมูลค่าที่ต้องการได้ทันที
ตลาดกระจายศูนย์: การเทรดสปอตเกิดขึ้นในตลาดกระจายศูนย์ (Over-the-Counter: OTC) ซึ่งไม่มีศูนย์กลางการซื้อขาย นักเทรดทำการซื้อขายกับโบรกเกอร์หรือผู้ให้บริการโดยตรง
การเทรดฟิวเจอร์สและสปอตมีความแตกต่างกันในหลายด้าน ทั้งในแง่ของการดำเนินการ ความเสี่ยง และโอกาสในการทำกำไร การเปรียบเทียบดังต่อไปนี้จะช่วยให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น:
ฟิวเจอร์ส FX: มีการส่งมอบตามวันที่ระบุในสัญญา ซึ่งอาจเป็นเดือนหรือปีข้างหน้า เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงในระยะยาว
สปอต FX: การส่งมอบเกิดขึ้นทันทีภายใน 2 วันทำการหลังจากการทำธุรกรรม เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของตลาดในระยะสั้น
ฟิวเจอร์ส FX: มีการกำหนดขนาดของสัญญาที่แน่นอน ทำให้มีความยืดหยุ่นน้อยกว่า เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีการวางแผนการลงทุนอย่างชัดเจน
สปอต FX: ไม่มีการกำหนดขนาดของสัญญา นักลงทุนสามารถปรับจำนวนเงินที่ต้องการซื้อขายได้ตามต้องการ ทำให้มีความยืดหยุ่นสูงกว่า
ฟิวเจอร์ส FX: ความเสี่ยงมาจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนในระยะยาว การถือสัญญาจนถึงวันหมดอายุอาจทำให้นักลงทุนเผชิญกับความผันผวนที่สูงขึ้น
สปอต FX: ความเสี่ยงเกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนในระยะสั้น ความผันผวนของราคาสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา นักลงทุนต้องมีการติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด
ในปี 2024 ตลาดฟิวเจอร์สและสปอต FX มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงของนโยบายการเงินทั่วโลก ส่งผลให้นักลงทุนหันมาใช้เครื่องมือเหล่านี้ในการป้องกันความเสี่ยงและทำกำไรจากความผันผวนของตลาด
จากข้อมูลของ CME Group ระบุว่า ปริมาณการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์ส FX ในปี 2023 เพิ่มขึ้นกว่า 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคู่สกุลเงินหลัก เช่น EUR/USD และ USD/JPY นักลงทุนสถาบันมีการใช้ฟิวเจอร์สเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินและอัตราดอกเบี้ยที่เปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง
การเทรดสปอต FX ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนรายย่อย เนื่องจากสามารถเข้าถึงตลาดได้ง่ายและมีต้นทุนการเทรดต่ำกว่า จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2023 พบว่า จำนวนบัญชีผู้ใช้งานในตลาด Forex เพิ่มขึ้นกว่า 25% โดยนักเทรดส่วนใหญ่นิยมใช้การเทรดสปอตเป็นวิธีหลักในการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น
การเทรดฟิวเจอร์ส FX และสปอต FX มีความแตกต่างกันทั้งในด้านของการดำเนินการ ความเสี่ยง และโอกาสในการทำกำไร นักเทรดควรพิจารณาเลือกวิธีการเทรดที่เหมาะสมกับเป้าหมายและกลยุทธ์ของตนเอง การทำความเข้าใจความแตกต่างและแนวโน้มของตลาดทั้งสองประเภทนี้จะช่วยให้นักเทรดสามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในการลงทุนได้ดียิ่งขึ้น