Exness: Premium Trading on Forex, Gold & Crypto. Your search for the BEST SPREAD ends here!
ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่นักลงทุน เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยและมีมูลค่าสูง การลงทุนในทองคำมีหลายวิธีที่นักลงทุนสามารถเลือกได้ ซึ่ง Gold Spot และ Gold Future เป็นสองวิธีหลักที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย แม้ว่าทั้งสองแบบจะเกี่ยวข้องกับทองคำ แต่ก็มีลักษณะที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน บทความนี้จะอธิบายถึงความแตกต่างระหว่าง Gold Spot และ Gold Future เพื่อให้นักลงทุนมีความเข้าใจลึกซึ้งมากขึ้นเกี่ยวกับการลงทุนทั้งสองประเภทนี้
Gold Spot หมายถึงการซื้อขายทองคำตามราคาตลาดปัจจุบัน โดยไม่มีกำหนดวันส่งมอบ การซื้อขายในรูปแบบนี้มักจะเกิดขึ้นในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศหรือ Forex ซึ่งนักลงทุนสามารถซื้อขายทองคำในทันทีตามราคาปัจจุบัน การซื้อขาย Gold Spot นั้นเน้นการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในระยะสั้นและมักจะใช้ในกลยุทธ์การเก็งกำไร
ราคาของ Gold Spot มีความผันผวนขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น อัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์สหรัฐ ความต้องการทองคำในตลาดโลก และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ตัวอย่างเช่น ในปี 2020 ซึ่งเกิดวิกฤต COVID-19 ราคาทองคำ Spot พุ่งขึ้นสูงสุดถึงประมาณ 2,075 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามข้อมูลของ World Gold Council ซึ่งแสดงถึงความสำคัญของทองคำในช่วงที่เศรษฐกิจโลกไม่แน่นอน
Gold Future หมายถึงการซื้อขายสัญญาทองคำที่มีการกำหนดวันส่งมอบในอนาคต นักลงทุนที่ทำการซื้อขาย Gold Future จะต้องกำหนดราคาและวันที่จะทำการส่งมอบทองคำตามที่ระบุในสัญญา การซื้อขายในลักษณะนี้ช่วยให้นักลงทุนสามารถคาดการณ์ราคาทองคำในอนาคตได้ และสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด
การซื้อขาย Gold Future มักจะเกิดขึ้นในตลาดอนุพันธ์ (Derivative Markets) เช่น ตลาด Chicago Mercantile Exchange (CME) ซึ่งสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้านั้นจะมีการกำหนดขนาดของสัญญาและวันที่ต้องส่งมอบอย่างชัดเจน นักลงทุนจึงสามารถใช้เครื่องมือนี้เพื่อป้องกันความเสี่ยงหรือเก็งกำไรจากการคาดการณ์ราคาทองคำในอนาคต
ระยะเวลาการส่งมอบ
Gold Spot: ไม่มีการกำหนดวันส่งมอบ นักลงทุนสามารถซื้อขายทองคำได้ทันทีตามราคาปัจจุบัน
Gold Future: มีการกำหนดวันส่งมอบในอนาคตตามที่ระบุในสัญญา ซึ่งอาจเป็นระยะเวลาหลายเดือนล่วงหน้า
วิธีการคำนวณราคา
Gold Spot: ราคาทองคำ Spot ขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานในตลาดปัจจุบัน ซึ่งมีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและทันที นักลงทุนสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของราคาทุกวินาที
Gold Future: ราคาทองคำล่วงหน้าขึ้นอยู่กับการคาดการณ์ของนักลงทุนเกี่ยวกับราคาทองคำในอนาคต ปัจจัยที่ใช้ในการคำนวณราคานี้รวมถึงอัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ และแนวโน้มเศรษฐกิจ
ความเสี่ยง
Gold Spot: ความเสี่ยงหลักของ Gold Spot คือความผันผวนของราคาทองคำในตลาดทันที ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสั้นๆ
Gold Future: นักลงทุน Gold Future ต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการคาดการณ์ราคาทองคำในอนาคต หากทิศทางของตลาดไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ นักลงทุนอาจขาดทุนได้อย่างมาก
ขนาดของการลงทุน
Gold Spot: นักลงทุนสามารถเริ่มต้นการซื้อขายด้วยปริมาณทองคำที่น้อยกว่าได้ ทำให้มีความยืดหยุ่นมากกว่า
Gold Future: สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้ามักจะมีขนาดใหญ่ ทำให้เหมาะสมสำหรับนักลงทุนรายใหญ่หรือนักลงทุนที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนในทองคำระยะยาว
นักลงทุนควรเลือกวิธีการลงทุนในทองคำตามเป้าหมายและกลยุทธ์การลงทุนของตนเอง
สำหรับนักลงทุนระยะสั้น: Gold Spot เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหากำไรในระยะสั้น โดยการเก็งกำไรจากความผันผวนของราคาทองคำในปัจจุบัน
สำหรับนักลงทุนระยะยาว: Gold Future เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาทองคำในอนาคต และต้องการทราบต้นทุนที่แน่นอนในการลงทุนในระยะยาว
ในปี 2024 นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะยังคงเคลื่อนไหวตามปัจจัยทางเศรษฐกิจโลก เช่น อัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ และนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) จากข้อมูลในปี 2023 ราคาทองคำมีความผันผวนตามอัตราเงินเฟ้อและนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยส่งผลให้ราคาทองคำลดลง ขณะที่การปรับลดดอกเบี้ยทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้น นักลงทุนใน Gold Spot และ Gold Future ควรจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดเพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสม
ทั้ง Gold Spot และ Gold Future มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในเรื่องของระยะเวลาการส่งมอบ การคำนวณราคา และขนาดของการลงทุน นักลงทุนทองคำควรพิจารณาเลือกวิธีการลงทุนที่สอดคล้องกับเป้าหมายของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการเก็งกำไรในระยะสั้นหรือการป้องกันความเสี่ยงในระยะยาว