Login
Sign Up
OR
Forgotten Password
Login
This site is protected by reCAPTCHA and the Google Privacy Policy and Terms of Service apply.
English
中文
日本語
ID
Vietnam
한국어
Filipino
   Academy Menu

ตลาดฟอเร็กซ์ทำงานอย่างไร

ตลาดฟอเร็กซ์ (Forex) หรือ Foreign Exchange Market เป็นตลาดการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเกี่ยวข้องกับการซื้อขายสกุลเงินต่างๆ ระหว่างผู้ค้า นักลงทุน ธนาคาร บริษัท และหน่วยงานรัฐบาล ตลาดนี้ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ทำให้มีสภาพคล่องสูงและโอกาสในการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง

การทำงานของตลาดฟอเร็กซ์

ตลาดฟอเร็กซ์ทำงานผ่านเครือข่ายการแลกเปลี่ยนที่กระจายอยู่ทั่วโลก โดยไม่ได้มีศูนย์กลางการซื้อขายเหมือนตลาดหุ้นหรือสินค้าโภคภัณฑ์ ตลาดนี้เป็นตลาดแบบ OTC (Over-The-Counter) หรือเป็นการซื้อขายที่เกิดขึ้นระหว่างผู้ค้าโดยตรง โดยไม่มีการซื้อขายผ่านตลาดกลาง ข้อตกลงซื้อขายจะเกิดขึ้นระหว่างผู้ค้ากับผู้ให้บริการสภาพคล่อง เช่น ธนาคาร โบรกเกอร์ และสถาบันการเงิน

สกุลเงินที่เทรดในตลาดฟอเร็กซ์

ตลาดฟอเร็กซ์ทำการซื้อขายผ่านคู่สกุลเงิน เช่น EUR/USD, GBP/JPY หรือ USD/JPY คู่สกุลเงินเหล่านี้ประกอบด้วยสกุลเงินหลักและสกุลเงินรอง การเทรดฟอเร็กซ์เป็นการซื้อขายสกุลเงินหนึ่งในคู่สกุลเงินและขายสกุลเงินอีกหนึ่งในคู่ ซึ่งราคาของคู่สกุลเงินจะเปลี่ยนแปลงตามสภาพตลาด

ตัวอย่างเช่น หากนักลงทุนทำการเทรดคู่สกุลเงิน EUR/USD และคาดว่ามูลค่าของยูโร (EUR) จะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (USD) นักลงทุนจะทำการซื้อ (long) ยูโร และขาย (short) ดอลลาร์ หากมูลค่าของยูโรเพิ่มขึ้นจริง นักลงทุนจะได้รับกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคานั้นๆ

กลไกการทำงานของตลาด

ตลาดฟอเร็กซ์มีผู้เล่นหลักหลายกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของตลาด ได้แก่:

  1. ธนาคารกลางและรัฐบาล: ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ มีบทบาทสำคัญในการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินผ่านนโยบายทางการเงิน การปรับอัตราดอกเบี้ย และการซื้อขายสกุลเงินสำรอง ธนาคารกลางเช่น Federal Reserve (สหรัฐฯ), European Central Bank (ECB), และ Bank of Japan (BoJ) สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดฟอเร็กซ์ได้อย่างมีนัยสำคัญ

  2. ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงิน: ธนาคารพาณิชย์เป็นตัวกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสำหรับลูกค้าและองค์กรขนาดใหญ่ โดยให้บริการซื้อขายสกุลเงินตามความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ ธนาคารยังสามารถเก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเองได้

  3. โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์: โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์เป็นแพลตฟอร์มที่ให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงตลาดฟอเร็กซ์ โดยโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมเช่น IG Markets, eToro, และ Plus500 ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างนักเทรดกับตลาด ผู้เทรดสามารถเข้าถึงการซื้อขายคู่สกุลเงินต่างๆ ผ่านแพลตฟอร์มของโบรกเกอร์เหล่านี้

  4. นักลงทุนและผู้ค้า: นักลงทุนรายย่อยและผู้ค้าระดับสถาบันมีบทบาทในการเก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน โดยใช้เครื่องมือเช่น CFD (Contract for Difference) หรือการซื้อขายฟอเร็กซ์โดยตรงผ่านโบรกเกอร์ นักลงทุนเหล่านี้สามารถทำกำไรทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง

เวลาการเทรดในตลาดฟอเร็กซ์

ตลาดฟอเร็กซ์เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมงในช่วงวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ซึ่งแบ่งออกเป็นช่วงเวลาตลาดหลัก ได้แก่:

  1. ตลาดซิดนีย์ (Sydney): เปิดทำการเวลา 04:00 น. ถึง 13:00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่มีปริมาณการซื้อขายน้อยที่สุด

  2. ตลาดโตเกียว (Tokyo): เปิดทำการเวลา 07:00 น. ถึง 16:00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ตลาดโตเกียวเป็นตลาดฟอเร็กซ์ที่สำคัญในภูมิภาคเอเชีย มีการซื้อขายสกุลเงินเยน (JPY) อย่างมาก

  3. ตลาดลอนดอน (London): เปิดทำการเวลา 14:00 น. ถึง 23:00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ตลาดลอนดอนเป็นตลาดฟอเร็กซ์ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุด เนื่องจากลอนดอนเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก

  4. ตลาดนิวยอร์ก (New York): เปิดทำการเวลา 19:00 น. ถึง 04:00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ตลาดนิวยอร์กเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีปริมาณการซื้อขายสูง โดยมีการซื้อขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) มากที่สุด

ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนในตลาดฟอเร็กซ์

อัตราแลกเปลี่ยนในตลาดฟอเร็กซ์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องตามปัจจัยหลายประการ เช่น:

  1. ข้อมูลเศรษฐกิจ: ข้อมูลเศรษฐกิจเช่น อัตราการเติบโตของ GDP, การจ้างงาน, และอัตราเงินเฟ้อเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยน หากเศรษฐกิจของประเทศใดมีความแข็งแกร่ง ค่าเงินของประเทศนั้นมักจะมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น

  2. อัตราดอกเบี้ย: การปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางส่งผลกระทบต่อมูลค่าของสกุลเงิน อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นมักจะดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ทำให้ความต้องการซื้อสกุลเงินเพิ่มขึ้น

  3. ความเสี่ยงทางการเมือง: เหตุการณ์ทางการเมือง เช่น การเลือกตั้ง, การประกาศนโยบายเศรษฐกิจ, หรือวิกฤตการณ์ทางการเมือง อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในค่าเงินของประเทศนั้น

  4. ตลาดการเงินโลก: ตลาดฟอเร็กซ์ยังคงมีความเชื่อมโยงกับตลาดการเงินโลก เช่น ตลาดหุ้น, ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ และตลาดพันธบัตร เมื่อมีความผันผวนในตลาดการเงินเหล่านี้ อาจส่งผลให้ราคาสกุลเงินเปลี่ยนแปลงได้

แพลตฟอร์มการเทรดฟอเร็กซ์

ในปัจจุบัน มีแพลตฟอร์มการเทรดฟอเร็กซ์หลายแห่งที่นักลงทุนสามารถใช้ในการซื้อขายสกุลเงินได้ เช่น:

  • IG Markets: โบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือ ให้บริการการเทรดฟอเร็กซ์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าผ่านแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย มีเครื่องมือวิเคราะห์ตลาดที่ครอบคลุม

  • eToro: eToro เป็นแพลตฟอร์มการเทรดฟอเร็กซ์ที่มีฟีเจอร์การคัดลอกการเทรด (Copy Trading) ทำให้นักลงทุนมือใหม่สามารถคัดลอกการเทรดของนักลงทุนที่มีประสบการณ์ได้

  • Plus500: Plus500 เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นการเทรด CFD ในสินทรัพย์หลายประเภท รวมถึงฟอเร็กซ์ นักลงทุนสามารถเข้าถึงตลาดได้อย่างรวดเร็วและมีค่าธรรมเนียมต่ำ

ข้อสรุป

ตลาดฟอเร็กซ์เป็นตลาดการซื้อขายสกุลเงินที่มีขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องสูง การทำงานของตลาดฟอเร็กซ์เชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจโลกและปัจจัยหลายประการ เช่น นโยบายการเงินและข้อมูลเศรษฐกิจ ตลาดฟอเร็กซ์เป็นตลาดที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง

CONTINUE TO SITE