Forex มีคู่เงินกี่ประเภท?

ในตลาดฟอเร็กซ์ (Forex) คู่เงิน (Currency Pairs) ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ใช้ในการซื้อขาย คู่เงินหมายถึงสองสกุลเงินที่นำมาซื้อขายกันในตลาด เช่น EUR/USD ซึ่งหมายถึงการแลกเปลี่ยนระหว่างเงินยูโร (EUR) และดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) คู่เงินในตลาดฟอเร็กซ์สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภทตามความนิยมและปริมาณการซื้อขาย โดยมีการจัดกลุ่มหลักๆ ตามการใช้งานและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ

ประเภทของคู่เงินในตลาดฟอเร็กซ์

คู่เงินในตลาดฟอเร็กซ์สามารถแบ่งออกได้เป็นสามประเภทหลัก ได้แก่

1. คู่เงินหลัก (Major Pairs)
   คู่เงินหลักคือคู่เงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดในตลาดฟอเร็กซ์ โดยทั่วไปแล้วจะประกอบด้วยดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) เป็นสกุลเงินหลักที่ถูกจับคู่กับสกุลเงินอื่นๆ ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจสูง เช่น ยูโร (EUR), เยนญี่ปุ่น (JPY), ปอนด์สเตอร์ลิง (GBP), และฟรังก์สวิส (CHF) ตัวอย่างคู่เงินหลักที่นิยมได้แก่ EUR/USD, GBP/USD, และ USD/JPY คู่เงินเหล่านี้มีปริมาณการซื้อขายที่สูงเนื่องจากเป็นสกุลเงินของประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่และมั่นคง การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินเหล่านี้มีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญ

2. คู่เงินรอง (Minor Pairs)
   คู่เงินรองคือคู่เงินที่ไม่มีดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) เป็นส่วนประกอบ โดยทั่วไปแล้วจะเป็นคู่เงินที่ประกอบด้วยสกุลเงินที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ เช่น ยูโร (EUR), เยนญี่ปุ่น (JPY), หรือปอนด์สเตอร์ลิง (GBP) แต่ไม่ค่อยมีการซื้อขายมากเท่ากับคู่เงินหลัก ตัวอย่างของคู่เงินรองได้แก่ EUR/GBP, EUR/AUD, และ GBP/JPY แม้ว่าปริมาณการซื้อขายของคู่เงินรองจะน้อยกว่าคู่เงินหลัก แต่ก็ยังคงมีความผันผวนและมีโอกาสในการทำกำไร

3. คู่เงินแปลกใหม่ (Exotic Pairs)
   คู่เงินแปลกใหม่คือคู่เงินที่ประกอบด้วยสกุลเงินของประเทศที่มีเศรษฐกิจเล็กหรือกำลังพัฒนา เช่น ไทยบาท (THB), เปโซเม็กซิโก (MXN), และลิราตุรกี (TRY) คู่เงินเหล่านี้มักมีความผันผวนสูงกว่าคู่เงินหลักและคู่เงินรอง เนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศที่เกี่ยวข้อง คู่เงินแปลกใหม่ที่นิยมซื้อขายกัน เช่น USD/THB, EUR/TRY และ USD/MXN อย่างไรก็ตาม การซื้อขายคู่เงินแปลกใหม่มักมีความเสี่ยงสูงเนื่องจากสภาพคล่องที่ต่ำและการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินที่รวดเร็ว

ปัจจัยที่ส่งผลต่อคู่เงิน

การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินในตลาดฟอเร็กซ์ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ หนึ่งในปัจจัยหลักคือความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เช่น อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ และการเติบโตทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ นอกจากนี้ เหตุการณ์ทางการเมืองและนโยบายการเงินของประเทศต่างๆ ยังมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของค่าเงินในตลาดฟอเร็กซ์

ตัวอย่างเช่น คู่เงิน EUR/USD มักจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) และธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank) ซึ่งมีบทบาทในการควบคุมอัตราดอกเบี้ยและการพิมพ์เงิน นอกจากนี้ เหตุการณ์ทางการเมือง เช่น การเลือกตั้งในสหรัฐฯ หรือวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรปก็ส่งผลต่อความผันผวนของคู่เงินนี้เช่นกัน

ในทำนองเดียวกัน คู่เงินแปลกใหม่ เช่น USD/TRY ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองในตุรกีและการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางตุรกี หากมีเหตุการณ์ที่ทำให้ความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจตุรกีลดลง ค่าเงินลิรา (TRY) อาจลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ

โบรกเกอร์ที่ให้บริการคู่เงินในฟอเร็กซ์

โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ได้รับความนิยมในการซื้อขายคู่เงิน เช่น IC Markets, Exness, และ XM เป็นโบรกเกอร์ที่ให้บริการการซื้อขายคู่เงินหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นคู่เงินหลัก คู่เงินรอง หรือคู่เงินแปลกใหม่ แพลตฟอร์มการซื้อขายเหล่านี้มีเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ซื้อขายสามารถวิเคราะห์ตลาดและทำการซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โบรกเกอร์เหล่านี้ยังมีการเสนอค่าสเปรดที่ต่ำและความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ ทำให้นักลงทุนสามารถทำการตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว

ข้อสรุป

ตลาดฟอเร็กซ์มีคู่เงินหลายประเภทที่ผู้ซื้อขายสามารถเลือกทำการซื้อขายได้ ทั้งคู่เงินหลัก คู่เงินรอง และคู่เงินแปลกใหม่ แต่ละประเภทมีความผันผวนและความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ