Login
Sign Up
OR
Forgotten Password
Login
This site is protected by reCAPTCHA and the Google Privacy Policy and Terms of Service apply.
English
中文
日本語
ID
Vietnam
한국어
Filipino
   Academy Menu

MetaTrader 5 กับ MetaTrader 4: แอปไหนดีกว่ากันในปี 2024?

ในโลกของการเทรดฟอเร็กซ์ MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยทั้งสองแอปพลิเคชันนี้พัฒนาโดย MetaQuotes และมีฟีเจอร์ที่คล้ายคลึงกัน แต่มีความแตกต่างในบางด้านที่ทำให้นักเทรดหลายคนต้องพิจารณาว่าจะใช้แอปไหนในปี 2024 บทความนี้จะวิเคราะห์ความแตกต่างของ MT4 และ MT5 อย่างละเอียด โดยเน้นข้อมูลที่สำคัญเพื่อช่วยนักเทรดทุกคนทำความเข้าใจและเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมที่สุด

1. ภาพรวมของ MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5)

MetaTrader 4 เปิดตัวในปี 2005 และเป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับนักเทรดฟอเร็กซ์ทั่วโลก ด้วยการออกแบบที่ใช้งานง่ายและมีเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ครบครัน MT4 กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด

MetaTrader 5 เปิดตัวในปี 2010 โดยมีฟีเจอร์เพิ่มเติมจาก MT4 และรองรับตลาดการเงินที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฟอเร็กซ์ หุ้น ดัชนี และสินค้าโภคภัณฑ์ MT5 ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลและการเทรดที่ซับซ้อนมากขึ้น

2. ความแตกต่างระหว่าง MetaTrader 4 และ MetaTrader 5

แม้ว่า MT4 และ MT5 จะเป็นแพลตฟอร์มที่คล้ายกัน แต่ทั้งสองมีความแตกต่างที่ชัดเจนในหลายด้าน ดังนี้:

  • ประเภทสินทรัพย์ที่รองรับ: MT4 เน้นการซื้อขายในตลาดฟอเร็กซ์เป็นหลัก ในขณะที่ MT5 รองรับสินทรัพย์หลากหลายประเภท เช่น หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ และดัชนี ทำให้ MT5 เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในตลาดหลายประเภท

  • จำนวนกรอบเวลา: MT4 มีกรอบเวลา (Timeframes) ให้เลือกใช้ทั้งหมด 9 ชนิด ในขณะที่ MT5 มีมากถึง 21 ชนิด ซึ่งช่วยให้นักเทรดสามารถวิเคราะห์ตลาดได้ละเอียดขึ้น

  • เครื่องมือการวิเคราะห์: MT5 มีอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคเพิ่มเติมจาก MT4 เช่น Fibonacci Arcs และ Gann Grids ทำให้มีความยืดหยุ่นมากกว่าในการวิเคราะห์ข้อมูล

  • ระบบการเทรด: MT5 รองรับระบบ Hedging และ Netting ขณะที่ MT4 รองรับเฉพาะระบบ Hedging เท่านั้น ระบบ Netting ช่วยให้นักเทรดสามารถควบคุมการซื้อขายในหลายตลาดได้ง่ายขึ้น

  • การทำงานแบบ Multi-Threaded: MT5 ถูกออกแบบมาให้ใช้การทำงานแบบ Multi-Threaded ในการประมวลผล ซึ่งทำให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและรันคำสั่งเทรดได้เร็วกว่า MT4 ที่ยังคงใช้ระบบ Single-Threaded

3. ข้อมูลสถิติและแนวโน้มในปี 2024

จากข้อมูลของ MetaQuotes ในปี 2024 มีนักเทรดมากกว่า 70% ยังคงใช้ MT4 เป็นแพลตฟอร์มหลัก แม้ว่าจะมีฟีเจอร์ที่จำกัดเมื่อเทียบกับ MT5 แต่เนื่องจากความคุ้นเคยและความเสถียรของระบบทำให้ MT4 ยังคงได้รับความนิยมอย่างสูง นอกจากนี้การสำรวจพบว่า MT5 เริ่มมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในหมู่นักเทรดที่ต้องการลงทุนในตลาดสินทรัพย์อื่นๆ นอกเหนือจากฟอเร็กซ์

การเติบโตของ MT5 นั้นสามารถเห็นได้ชัดจากสถิติของ Statista ที่ระบุว่าการใช้ MT5 เพิ่มขึ้นประมาณ 15% ต่อปีในช่วงปี 2022-2024 โดยเฉพาะในตลาดยุโรปและอเมริกาเหนือที่นักเทรดหันมาใช้แพลตฟอร์มที่มีความหลากหลายมากขึ้น

4. ข้อดีและข้อเสียของ MetaTrader 4 และ MetaTrader 5

แม้ว่าทั้ง MT4 และ MT5 จะมีความสามารถในการเทรดที่สูง แต่แต่ละแพลตฟอร์มก็มีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกันไป นักเทรดจึงควรพิจารณาให้เหมาะสมกับความต้องการของตนเอง:

  • MetaTrader 4:

    • ไม่รองรับตลาดหุ้นหรือสินค้าโภคภัณฑ์

    • ขาดฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น การทำงานแบบ Multi-Threaded

    • ใช้งานง่ายและมีความเสถียรสูง

    • อินดิเคเตอร์ทางเทคนิคและเครื่องมือการวิเคราะห์พื้นฐานครบครัน

    • รองรับการเทรดฟอเร็กซ์ได้ดี

    • ข้อดี:

    • ข้อเสีย:

  • MetaTrader 5:

    • ความซับซ้อนมากขึ้นในการใช้งานสำหรับนักเทรดมือใหม่

    • นักเทรดที่เคยใช้ MT4 อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัว

    • รองรับตลาดการเงินที่หลากหลาย เช่น หุ้น ฟอเร็กซ์ ดัชนี และสินค้าโภคภัณฑ์

    • มีอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคเพิ่มเติมและกรอบเวลาหลากหลาย

    • ใช้งานระบบ Multi-Threaded ทำให้การประมวลผลคำสั่งและข้อมูลเร็วขึ้น

    • ข้อดี:

    • ข้อเสีย:

5. ผู้ใช้งาน MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 มีความเห็นอย่างไร

จากการสำรวจของนักเทรดในปี 2023 พบว่านักเทรดมือใหม่ส่วนใหญ่ยังคงเลือกใช้ MT4 เนื่องจากใช้งานง่ายและมีฟีเจอร์ที่เพียงพอต่อการเทรดในตลาดฟอเร็กซ์ ขณะที่นักเทรดมืออาชีพที่มีประสบการณ์มากกว่า มักจะหันมาใช้ MT5 เนื่องจากฟีเจอร์ที่หลากหลายกว่า และสามารถเทรดในสินทรัพย์หลายประเภทได้พร้อมกัน

ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ทางการเงิน หลายคนได้ออกมาแนะนำให้นักเทรดที่ต้องการขยายการลงทุนในตลาดสินทรัพย์อื่นๆ ย้ายมาใช้ MT5 เนื่องจากแพลตฟอร์มนี้สามารถตอบสนองความต้องการในการวิเคราะห์ที่ซับซ้อนได้ดีกว่า

บทสรุป

ทั้ง MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 มีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกัน การเลือกใช้แพลตฟอร์มขึ้นอยู่กับความต้องการของนักเทรด หากคุณเป็นนักเทรดฟอเร็กซ์ที่เน้นความเสถียรและการใช้งานที่ไม่ซับซ้อน MT4 ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีในปี 2024 แต่หากคุณต้องการขยายการลงทุนในตลาดอื่นๆ หรือต้องการเครื่องมือวิเคราะห์ที่ซับซ้อนกว่า MT5 เป็นทางเลือกที่เหมาะสม

CONTINUE TO SITE