รีวิว Eightcap ดีไหม? โกงไหม ค่าธรรมเนียม ข้อดีข้อเสีย 2024

Eightcap เป็นโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงในตลาดฟอเร็กซ์และ CFD มาหลายปี และได้รับการควบคุมจากหน่วยงานทางการเงินที่น่าเชื่อถืออย่าง ASIC (Australian Securities and Investments Commission) ในออสเตรเลีย และ FSC (Financial Services Commission) ของมอริเชียส ด้วยข้อมูลนี้ทำให้มีความน่าเชื่อถือสูง และไม่น่ามีความเสี่ยงจากการโกง เนื่องจากการถูกควบคุมโดยหน่วยงานเหล่านี้บ่งบอกถึงการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส

Eightcap โกงไหม? การควบคุมและความน่าเชื่อถือ

Eightcap ไม่เพียงแต่ได้รับใบอนุญาตจาก ASIC ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลที่เข้มงวดและได้รับการยอมรับในระดับสากล แต่ยังได้รับการควบคุมโดย FSC ในมอริเชียส ซึ่งทำให้โบรกเกอร์นี้มีความน่าเชื่อถือในระดับสูง โบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานเหล่านี้จำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรฐานทางการเงินที่เคร่งครัด เช่น การแยกเงินของลูกค้าออกจากเงินทุนของบริษัท และการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางการเงินที่เข้มงวด ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมั่นใจได้ว่าเงินของพวกเขาถูกปกป้องอย่างดี

ค่าธรรมเนียมการเทรดกับ Eightcap

Eightcap ให้บริการบัญชีสองประเภทหลักคือบัญชี Standard และบัญชี Raw ซึ่งมีโครงสร้างค่าธรรมเนียมและสเปรดที่แตกต่างกัน:

1. บัญชี Standard

• สเปรดเริ่มต้น: 1.0 pip

• ไม่มีค่าคอมมิชชั่น: สำหรับการเทรดในบัญชี Standard ไม่มีการคิดค่าคอมมิชชั่นเพิ่มเติมในการซื้อขาย ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ไม่ต้องการเสียค่าธรรมเนียมในการเทรด

• เหมาะสำหรับ: นักเทรดที่เพิ่งเริ่มต้นและต้องการใช้ต้นทุนการเทรดที่โปร่งใส

2. บัญชี Raw

• สเปรดเริ่มต้น: 0.0 pip

• ค่าคอมมิชชั่น: $3.5 ต่อล็อตต่อฝั่ง (ซื้อ/ขาย) หรือ $7 ต่อล็อตในรอบการเทรดเต็ม

• เหมาะสำหรับ: นักเทรดที่ต้องการเข้าถึงสเปรดต่ำและยินดีจ่ายค่าคอมมิชชั่นเพื่อลดต้นทุนการเทรด

ค่าธรรมเนียมและสเปรดของ Eightcap ถือว่าแข่งขันได้เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์รายอื่น ๆ โดยเฉพาะในบัญชี Raw ที่มีสเปรดต่ำมาก เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเทรดด้วยต้นทุนต่ำ

แพลตฟอร์มการเทรด

Eightcap รองรับการใช้งานผ่านแพลตฟอร์มที่เป็นที่นิยมอย่าง MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่มีเครื่องมือวิเคราะห์หลากหลาย รวมถึงอินดิเคเตอร์ที่สามารถใช้งานได้ง่าย เหมาะสำหรับนักเทรดทุกระดับ นอกจากนี้ Eightcap ยังมีบริการ WebTrader ที่สามารถใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ได้โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์

สินทรัพย์ที่สามารถเทรดได้

Eightcap นำเสนอสินทรัพย์ที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งฟอเร็กซ์ คู่เงินหลักอย่าง EUR/USD, GBP/USD และ USD/JPY รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์เช่นทองคำและน้ำมัน นอกจากนี้ยังมีการเทรดในดัชนีหุ้นยอดนิยม เช่น NASDAQ และ S&P 500 อีกทั้งยังรองรับการเทรดในคริปโตเคอร์เรนซีหลายชนิด เช่น Bitcoin, Ethereum, Ripple และ Litecoin ซึ่งทำให้นักเทรดมีโอกาสเข้าถึงตลาดที่หลากหลายมากขึ้น

ข้อดีและข้อเสียของ Eightcap

ข้อดี:

1. ความน่าเชื่อถือสูง: การได้รับใบอนุญาตจาก ASIC และ FSC ทำให้ Eightcap เป็นโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือในระดับสากล

2. แพลตฟอร์ม MetaTrader: รองรับแพลตฟอร์ม MT4 และ MT5 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมและมีฟีเจอร์ครบครันสำหรับการเทรด

3. ค่าธรรมเนียมการเทรดต่ำ: บัญชี Raw เสนอการเทรดด้วยสเปรดที่ต่ำมาก และมีค่าคอมมิชชั่นที่แข่งขันได้

4. การฝากและถอนที่รวดเร็ว: รองรับการฝากและถอนเงินผ่านหลายช่องทาง เช่น บัตรเครดิต, บัญชีธนาคาร, และ e-wallet อย่าง PayPal และ Skrill โดยการถอนเงินมักใช้เวลา 1-3 วันทำการ

5. สินทรัพย์หลากหลาย: นอกจากฟอเร็กซ์แล้ว Eightcap ยังรองรับการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนีหุ้น และคริปโตเคอร์เรนซี

ข้อเสีย:

1. ไม่มีบริการในบางประเทศ: Eightcap มีข้อจำกัดในการให้บริการในบางประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีการกำกับดูแลที่เข้มงวด

2. สเปรดของบัญชี Standard สูงกว่า: สำหรับนักเทรดที่ใช้บัญชี Standard สเปรดเริ่มต้นที่ 1.0 pip อาจไม่เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการลดต้นทุนการเทรด

กรณีศึกษาจากผู้ใช้งาน

ผู้ใช้งาน Eightcap ส่วนใหญ่รายงานว่าพึงพอใจกับประสบการณ์การเทรด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการถอนเงินที่รวดเร็วและไม่มีปัญหา ในกรณีของนักเทรดที่ใช้บัญชี Raw หลายคนยืนยันว่าค่าธรรมเนียมการเทรดต่ำและสเปรดที่ต่ำมากทำให้พวกเขาสามารถทำกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีการชื่นชมแพลตฟอร์ม MT5 ที่มีการตอบสนองที่รวดเร็วและฟีเจอร์ที่หลากหลาย

บทสรุป

Eightcap เป็นโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือสูงและมีบริการที่ครอบคลุมทุกด้าน ตั้งแต่การให้บริการแพลตฟอร์มที่เสถียรและค่าธรรมเนียมการเทรดที่ต่ำ โดยเฉพาะบัญชี Raw ที่มีสเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pip และค่าคอมมิชชั่นต่ำ หากคุณเป็นนักเทรดที่ต้องการโบรกเกอร์ที่มีการควบคุมและปลอดภัย Eightcap เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งในปี 2024