Exness: Premium Trading on Forex, Gold & Crypto. Your search for the BEST SPREAD ends here!
XAUUSD เป็นคู่สกุลเงินที่นักลงทุนทั่วโลกนิยมเทรด เนื่องจากมีการเคลื่อนไหวของราคาที่ชัดเจนและรวดเร็ว นอกจากนี้ การเทรด XAUUSD ยังเป็นการซื้อขายทองคำในรูปแบบของ CFD ซึ่งหมายความว่านักเทรดไม่จำเป็นต้องถือครองทองคำจริง ๆ แต่สามารถเก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาได้ การเลือกช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเทรด XAUUSD จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะความผันผวนของราคาทองคำจะแตกต่างกันไปตามช่วงเวลาของตลาดที่เปิดทำการ
ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) เนื่องจากราคาทองคำมักจะมีทิศทางตรงข้ามกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เช่น เมื่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ราคาทองคำจะปรับตัวลดลง ในทางกลับกัน เมื่อดอลลาร์อ่อนค่า ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้น การเทรด XAUUSD จึงมีความเชื่อมโยงกับตลาดการเงินที่สำคัญ ๆ โดยเฉพาะตลาดนิวยอร์ก (New York) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการซื้อขายทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ตลาดการเงินที่ส่งผลโดยตรงต่อการเคลื่อนไหวของ XAUUSD ได้แก่
ตลาดลอนดอน: ตลาดลอนดอนเป็นตลาดที่มีความสำคัญอย่างมากในการเทรดทองคำ เพราะเป็นตลาดที่มีปริมาณการซื้อขายทองคำมากที่สุดในยุโรป และมีช่วงเวลาการซื้อขายที่ตรงกับตลาดนิวยอร์ก ซึ่งทำให้ราคาทองคำมีความผันผวนสูงในช่วงที่ตลาดลอนดอนและนิวยอร์กเปิดทำการพร้อมกัน
ตลาดนิวยอร์ก: ตลาดนิวยอร์กเป็นตลาดที่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับราคาทองคำ เนื่องจากการเทรด XAUUSD มีการเชื่อมโยงกับดัชนีเศรษฐกิจสหรัฐและข่าวสารที่ส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์ ดังนั้น การเลือกเทรดในช่วงที่ตลาดนิวยอร์กเปิดทำการจึงเป็นเวลาที่มีโอกาสทำกำไรได้สูง
ความผันผวนของ XAUUSD จะเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงที่ตลาดลอนดอนและตลาดนิวยอร์กเปิดทำการพร้อมกัน ซึ่งก็คือระหว่างเวลา 19:00 น. ถึง 23:00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ในช่วงเวลานี้ นักลงทุนจากทั่วโลกจะเข้าร่วมการซื้อขายอย่างมากมาย ส่งผลให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวรวดเร็วและเป็นไปตามแนวโน้มทางเศรษฐกิจโลก
จากข้อมูลของโบรกเกอร์ FBS พบว่าในช่วงเวลานี้ ทองคำจะมีการเคลื่อนไหวของราคาที่ชัดเจนและเป็นไปในทิศทางที่สัมพันธ์กับตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐ เช่น การประกาศตัวเลขดัชนีผู้บริโภค (CPI) หรือตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm Payrolls) ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่นักลงทุนเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด
การติดตามข่าวสารทางเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีความสำคัญต่อการเทรด XAUUSD อย่างมาก ตัวอย่างเช่น การประกาศอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) หรือเฟด จะส่งผลกระทบต่อทิศทางของราคาทองคำอย่างชัดเจน หากเฟดประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย ราคาทองคำมักจะปรับตัวลดลงเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า แต่หากเฟดประกาศลดอัตราดอกเบี้ย ราคาทองคำมักจะปรับตัวสูงขึ้น เพราะนักลงทุนจะหันมาถือครองทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์
นอกจากนี้ การประกาศข้อมูลทางเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น ตัวเลขการจ้างงาน การผลิตอุตสาหกรรม หรือดัชนีเงินเฟ้อ ก็เป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทองคำและ XAUUSD อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การเลือกเวลาเทรด XAUUSD ให้ได้ผลกำไรสูงสุดไม่ใช่เพียงแค่ดูความผันผวนของตลาดเท่านั้น แต่ยังต้องพิจารณาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและการวิเคราะห์เชิงเทคนิคด้วย
สำหรับนักเทรดที่เน้นการเก็งกำไรในระยะสั้น การเทรดในช่วงที่ตลาดลอนดอนและตลาดนิวยอร์กเปิดพร้อมกันจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด เพราะเป็นช่วงที่มีการเคลื่อนไหวของราคาทองคำสูงสุด ทำให้นักเทรดสามารถทำกำไรได้มากจากการเคลื่อนไหวของราคาในระยะเวลาสั้นๆ
ตัวอย่างเช่น โบรกเกอร์ XM ระบุว่าในช่วงเวลา 19:00 น. ถึง 23:00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวแรงขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงที่มีการประกาศข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐ และนักเทรดทั่วโลกจะทำการปรับพอร์ตการลงทุนตามข้อมูลเหล่านั้น การเลือกเทรดในช่วงเวลานี้จะช่วยให้นักเทรดสามารถใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำได้อย่างรวดเร็ว
ถึงแม้ว่าการเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูงจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักเทรดที่ต้องการทำกำไรในระยะสั้น แต่ก็ต้องระวังการเคลื่อนไหวของราคาที่อาจทำให้เกิดการขาดทุนหากไม่มีการวางแผนการเทรดที่ดี การใช้เครื่องมือวิเคราะห์เชิงเทคนิค เช่น แนวรับ-แนวต้าน (Support and Resistance) หรือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) จะช่วยให้นักเทรดสามารถวิเคราะห์แนวโน้มของราคาทองคำได้แม่นยำยิ่งขึ้น
เวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเทรด XAUUSD คือช่วงที่ตลาดลอนดอนและตลาดนิวยอร์กเปิดทำการพร้อมกัน ซึ่งอยู่ระหว่างเวลา 19:00 น. ถึง 23:00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ในช่วงเวลานี้ ราคาทองคำมีความผันผวนสูงที่สุดเนื่องจากปริมาณการซื้อขายที่มากและความเคลื่อนไหวของราคาที่รวดเร็ว การติดตามข่าวสารทางเศรษฐกิจและการใช้เครื่องมือวิเคราะห์เชิงเทคนิคเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้นักเทรดสามารถทำกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ