Login
Sign Up
OR
Forgotten Password
Login
This site is protected by reCAPTCHA and the Google Privacy Policy and Terms of Service apply.
English
中文
日本語
ID
Vietnam
한국어
Filipino
   Academy Menu

ทำความเข้าใจว่าการเทรด CFD คืออะไร: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับมือใหม่

CFD หรือ Contract for Difference คือเครื่องมือการลงทุนที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถเก็งกำไรจากความผันผวนของราคาสินทรัพย์ต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องครอบครองสินทรัพย์นั้นๆ จริงๆ การเทรด CFD เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถทำกำไรทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง ทำให้เป็นที่นิยมในกลุ่มนักเทรดทั่วโลก โดยเฉพาะนักลงทุนที่ต้องการเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในตลาดที่มีการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็ว

CFD คืออะไร?

Contract for Difference (CFD) เป็นสัญญาที่ทำขึ้นระหว่างนักลงทุนและโบรกเกอร์ โดยเนื้อหาของสัญญานั้นคือการเก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์ เช่น หุ้น ดัชนี สกุลเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโทเคอร์เรนซี การทำกำไรจาก CFD มาจากความต่างของราคาสินทรัพย์ระหว่างจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของสัญญา แต่สิ่งที่สำคัญคือ นักลงทุนไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้นจริงๆ

ตัวอย่างเช่น หากนักลงทุนเชื่อว่าราคาหุ้นของบริษัท Apple จะเพิ่มขึ้น นักเทรดสามารถเปิดตำแหน่ง "long" (ซื้อ) ใน CFD ของหุ้น Apple หากราคาหุ้นขึ้นตามที่คาด นักลงทุนจะได้กำไรจากส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย แต่หากราคาหุ้นลดลง นักเทรดจะขาดทุนจากส่วนต่างนั้น ในทางตรงกันข้าม หากนักลงทุนเชื่อว่าราคาหุ้นจะลดลง เขาสามารถเปิดสถานะ "short" (ขาย) และจะได้กำไรหากราคาลดลง

แพลตฟอร์มการเทรด CFD

ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มมากมายที่ให้บริการการเทรด CFD ซึ่งแพลตฟอร์มเหล่านี้ให้บริการแก่นักลงทุนทั่วโลก แต่ละแพลตฟอร์มอาจมีความแตกต่างกันในเรื่องของค่าธรรมเนียม ประเภทสินทรัพย์ที่สามารถเทรดได้ และเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ ตัวอย่างของแพลตฟอร์มการเทรด CFD ที่เป็นที่รู้จักมีดังนี้:

  1. eToro: เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน eToro ให้บริการทั้งการเทรด CFD และการซื้อขายสินทรัพย์จริง เช่น หุ้นและคริปโทเคอร์เรนซี จุดเด่นของ eToro คือมีฟีเจอร์การคัดลอกการเทรด (Copy Trading) ที่ช่วยให้นักลงทุนมือใหม่สามารถคัดลอกกลยุทธ์การเทรดของนักลงทุนที่มีประสบการณ์ได้ นอกจากนี้ eToro ยังมีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและมีการเสนอสินทรัพย์ที่หลากหลาย รวมถึงการเทรดหุ้น ดัชนี และฟอเร็กซ์ในรูปแบบ CFD

  2. Plus500: Plus500 เป็นแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงในการเทรด CFD โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสินทรัพย์ที่เป็นหุ้นและดัชนี Plus500 มีเครื่องมือในการเทรดที่ครบครันและรองรับการเทรดในสินทรัพย์หลายประเภท รวมถึงฟอเร็กซ์ สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโทเคอร์เรนซี สิ่งที่ทำให้ Plus500 โดดเด่นคือแพลตฟอร์มที่เป็นมิตรกับผู้ใช้และมีค่าธรรมเนียมการเทรดที่ต่ำ นอกจากนี้ยังมีการตั้งค่าเลเวอเรจ (Leverage) ที่สามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้สูง แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นเช่นกัน

  3. IG Markets: IG Markets เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่ให้บริการการเทรด CFD ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ด้วยการดำเนินงานที่ครอบคลุมหลายประเทศ IG Markets ให้บริการ CFD ในหลากหลายสินทรัพย์ เช่น หุ้น ดัชนี สกุลเงิน และสินค้าโภคภัณฑ์ โดดเด่นในด้านความน่าเชื่อถือและการให้บริการที่หลากหลาย นอกจากนี้ IG Markets ยังมีเครื่องมือการวิเคราะห์ตลาดและฟีเจอร์ที่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งมือใหม่และมืออาชีพ

การใช้เลเวอเรจใน CFD

หนึ่งในคุณสมบัติที่น่าสนใจของการเทรด CFD คือการใช้เลเวอเรจ (Leverage) เลเวอเรจเป็นการกู้ยืมเงินจากโบรกเกอร์เพื่อลงทุนในสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงกว่าจำนวนเงินที่นักลงทุนมีอยู่จริง เลเวอเรจช่วยให้นักลงทุนสามารถเปิดตำแหน่งที่มีขนาดใหญ่กว่าทุนของตนเอง และเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

ตัวอย่างเช่น หากนักลงทุนมีเงินทุน 1,000 ดอลลาร์ และโบรกเกอร์ให้เลเวอเรจ 1:10 นักลงทุนจะสามารถเปิดตำแหน่งที่มีมูลค่า 10,000 ดอลลาร์ได้ อย่างไรก็ตาม แม้เลเวอเรจจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร แต่มันก็เพิ่มความเสี่ยงที่จะขาดทุนได้เช่นกัน หากราคาสินทรัพย์เคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกับที่นักลงทุนคาดการณ์ ความเสียหายอาจมากกว่าจำนวนเงินที่ลงทุนจริง

การวิเคราะห์ตลาดในการเทรด CFD

การวิเคราะห์ตลาดเป็นสิ่งสำคัญในการเทรด CFD นักลงทุนต้องใช้ข้อมูลที่ถูกต้องและแม่นยำเพื่อคาดการณ์ทิศทางของราคาสินทรัพย์ แพลตฟอร์มการเทรด CFD เช่น eToro, Plus500 และ IG Markets มีเครื่องมือที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถวิเคราะห์ตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น กราฟราคาและข้อมูลทางเทคนิคที่ช่วยให้เข้าใจถึงแนวโน้มของตลาดในปัจจุบัน

การวิเคราะห์ที่นิยมใช้ในการเทรด CFD ประกอบด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) และการวิเคราะห์พื้นฐาน (Fundamental Analysis) การวิเคราะห์ทางเทคนิคเน้นไปที่การศึกษากราฟราคาและดัชนีต่างๆ เพื่อคาดการณ์ทิศทางของตลาด ในขณะที่การวิเคราะห์พื้นฐานเน้นที่การศึกษาปัจจัยทางเศรษฐกิจและข่าวสารที่มีผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์

ข้อสรุป

CFD เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเก็งกำไรจากความผันผวนของราคาสินทรัพย์ การเข้าใจหลักการทำงานของ CFD การใช้เลเวอเรจ และการวิเคราะห์ตลาดเป็นสิ่งสำคัญในการทำกำไรจากการเทรด นอกจากนี้ การเลือกแพลตฟอร์มการเทรดที่เหมาะสมกับความต้องการของนักลงทุนยังเป็นปัจจัยที่สำคัญในการประสบความสำเร็จในการเทรด CFD

CONTINUE TO SITE