Login
Sign Up
OR
Forgotten Password
Login
This site is protected by reCAPTCHA and the Google Privacy Policy and Terms of Service apply.
English
中文
日本語
ID
Vietnam
한국어
Filipino
   Academy Menu

CFD คืออะไร เกี่ยวข้องอย่างไรต่อการเทรด Forex

CFD หรือ Contract for Difference คือสัญญาซื้อขายส่วนต่างของมูลค่าสินทรัพย์ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดยเน้นไปที่การคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์ในอนาคตโดยไม่ต้องครอบครองสินทรัพย์นั้นจริงๆ สินทรัพย์ที่นักลงทุนสามารถเทรดในรูปแบบ CFD มีหลากหลาย เช่น หุ้น, ดัชนี, ทองคำ และที่นิยมมากที่สุดคือการเทรด Forex

Forex (Foreign Exchange) คือการซื้อขายค่าเงินตราต่างประเทศ ซึ่งเป็นตลาดการเงินที่มีขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องสูงสุดในโลก CFD เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรจากความผันผวนของราคาค่าเงินในตลาด Forex ได้โดยไม่ต้องซื้อขายค่าเงินจริง

ความสำคัญของ CFD ต่อการเทรด Forex

การเทรด Forex ด้วย CFD นั้นช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและโอกาสในการทำกำไรให้กับนักลงทุน ซึ่งรวมถึงการใช้เลเวอเรจและการเก็งกำไรทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง โดย CFD จะมีข้อดีและประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการเทรด Forex ดังนี้:

1. การใช้เลเวอเรจ (Leverage)

เลเวอเรจเป็นหนึ่งในคุณสมบัติหลักของการเทรด CFD ซึ่งทำให้นักลงทุนสามารถควบคุมสถานะที่มีมูลค่าสูงกว่าจำนวนเงินที่ลงทุนจริง ตัวอย่างเช่น การใช้เลเวอเรจ 1:100 หมายความว่านักลงทุนสามารถควบคุมตำแหน่งเทรดที่มีมูลค่าถึง 100 เท่าของเงินที่วางไว้ การใช้เลเวอเรจนี้ทำให้สามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไร แต่ก็มีความเสี่ยงที่สูงขึ้นเช่นเดียวกัน

แพลตฟอร์มการเทรดเช่น eToro, Plus500, และ AvaTrade เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมที่ให้บริการเลเวอเรจสำหรับการเทรด Forex ด้วย CFD โดยนักลงทุนสามารถเลือกใช้เลเวอเรจตามความเหมาะสมของกลยุทธ์และระดับความเสี่ยงที่ต้องการ

2. การเก็งกำไรทั้งขาขึ้นและขาลง

การเทรด Forex ด้วย CFD ช่วยให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้ทั้งในช่วงที่ตลาดขาขึ้นและขาลง โดยในตลาดขาขึ้น นักลงทุนสามารถเปิดสถานะ Long ซึ่งหมายถึงการซื้อเพื่อคาดการณ์ว่าราคาค่าเงินจะเพิ่มขึ้น ส่วนในตลาดขาลง นักลงทุนสามารถเปิดสถานะ Short ซึ่งหมายถึงการขายล่วงหน้าเพื่อคาดการณ์ว่าราคาค่าเงินจะลดลง

ตัวอย่างเช่น หากนักลงทุนคาดว่าค่าเงิน EUR/USD จะเพิ่มขึ้น พวกเขาสามารถเปิดสถานะซื้อ (Long) เพื่อทำกำไรจากการเพิ่มขึ้นของราคาค่าเงิน หรือในทางกลับกัน หากคาดว่าค่าเงินจะลดลง นักลงทุนก็สามารถเปิดสถานะขาย (Short) เพื่อทำกำไรจากการลดลงของราคา

3. สภาพคล่องสูงและการเทรดตลอด 24 ชั่วโมง

ตลาด Forex เป็นตลาดการเงินที่มีสภาพคล่องสูงและสามารถเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมงตลอด 5 วันต่อสัปดาห์ การเทรด CFD Forex ช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงตลาดนี้ได้ตลอดเวลา โดยไม่จำเป็นต้องรอเวลาเปิดหรือปิดตลาด การเทรดผ่านแพลตฟอร์มเช่น MetaTrader 4 หรือ MetaTrader 5 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงในการเทรด Forex ทำให้นักลงทุนสามารถทำการซื้อขายได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

นักเทรดยังสามารถใช้คำสั่งล่วงหน้า เช่น Stop Loss หรือ Take Profit เพื่อลดความเสี่ยงในการขาดทุนและปิดสถานะเพื่อทำกำไรโดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การจัดการความเสี่ยงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

4. ค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมที่ต่ำ

การเทรด Forex ผ่าน CFD มีข้อได้เปรียบด้านค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียม เนื่องจากนักลงทุนไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการเป็นเจ้าของสินทรัพย์จริง ในการเทรด Forex ด้วย CFD โบรกเกอร์จะเรียกเก็บเพียงค่าสเปรด (Spread) ซึ่งเป็นส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขายของคู่เงิน นอกจากนี้ยังไม่มีค่าธรรมเนียมการโอนสินทรัพย์หรือค่าธรรมเนียมการเก็บรักษาสินทรัพย์เหมือนกับการซื้อขายหุ้นจริง

โบรกเกอร์เช่น IG Markets และ CMC Markets มีสเปรดที่แข่งขันได้และเป็นที่ยอมรับในวงการการเทรด Forex ด้วย CFD ซึ่งทำให้นักลงทุนสามารถเทรดได้โดยมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำลง

กระบวนการเทรด CFD Forex

ขั้นตอนในการเทรด CFD Forex จะมีความคล้ายคลึงกับการเทรด CFD สินทรัพย์อื่นๆ โดยเริ่มต้นจากการเลือกโบรกเกอร์ที่ให้บริการการเทรด CFD Forex และทำการเปิดบัญชี จากนั้นนักลงทุนจะสามารถฝากเงินเข้าบัญชีและเริ่มเทรดได้ โดยกระบวนการหลักมีดังนี้:

1. เลือกโบรกเกอร์และเปิดบัญชี

การเลือกโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเทรด CFD Forex โบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น FCA หรือ CySEC จะมีความปลอดภัยและมั่นคง เช่น Saxo Bank, Pepperstone, และ OANDA เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับการยอมรับในตลาด Forex

2. เลือกคู่เงินที่ต้องการเทรด

หลังจากเปิดบัญชีแล้ว นักลงทุนสามารถเลือกคู่เงินที่ต้องการเทรดได้ ซึ่งคู่เงินที่นิยมเทรดในตลาด Forex ได้แก่ EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY, และ AUD/USD เป็นต้น คู่เงินแต่ละคู่จะมีลักษณะเฉพาะตัว เช่น ความผันผวนและสภาพคล่องที่แตกต่างกัน นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลของแต่ละคู่เงินก่อนที่จะทำการเทรด

3. วางแผนและวิเคราะห์ตลาด

การวิเคราะห์ตลาดเป็นขั้นตอนสำคัญในการเทรด Forex ด้วย CFD โดยนักลงทุนสามารถใช้เครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น กราฟราคา เส้นแนวโน้ม (Trendline) หรืออินดิเคเตอร์ต่างๆ เช่น MACD และ RSI เพื่อช่วยในการคาดการณ์ทิศทางของราคา

นอกจากนี้การติดตามข่าวสารและข้อมูลเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อตลาด Forex เช่น ข้อมูลอัตราดอกเบี้ยหรือรายงานการจ้างงาน ยังเป็นปัจจัยที่นักลงทุนต้องคำนึงถึงเมื่อตัดสินใจเทรด

4. เปิดสถานะและติดตามผล

เมื่อทำการวิเคราะห์ตลาดและตัดสินใจแล้ว นักเทรดสามารถเปิดสถานะซื้อหรือขายตามการคาดการณ์ของตลาด และควรติดตามผลการเทรดอย่างใกล้ชิด เพราะราคาคู่เงินสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว

5. ปิดสถานะและสรุปผลการเทรด

เมื่อตลาดเคลื่อนไหวตามที่คาดการณ์ นักลงทุนสามารถปิดสถานะเพื่อทำกำไร หรือหากตลาดไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ ควรปิดสถานะเพื่อป้องกันการขาดทุน

บทสรุป

การเทรด Forex ด้วย CFD เป็นวิธีการที่ให้ความยืดหยุ่นและโอกาสในการทำกำไรสูงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาค่าเงินในตลาด Forex อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการใช้เลเวอเรจและการเก็งกำไรในตลาดที่ผันผวนมาก นักลงทุนจึงควรศึกษาและเข้าใจถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง รวมถึงใช้เครื่องมือการจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม

CONTINUE TO SITE