Login
Sign Up
OR
Forgotten Password
Login
This site is protected by reCAPTCHA and the Google Privacy Policy and Terms of Service apply.
English
中文
日本語
ID
Vietnam
한국어
Filipino
   Academy Menu

การซื้อขาย CFD คืออะไรและจะซื้อขาย CFD อย่างไร

CFD หรือ Contract for Difference เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ให้ผู้ค้าสามารถทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้น ๆ โดยตรง การซื้อขาย CFD ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเนื่องจากมีความยืดหยุ่นและสามารถนำไปใช้ในการเก็งกำไรทั้งตลาดขาขึ้นและขาลงได้

การทำงานของ CFD

การซื้อขาย CFD ทำงานโดยผู้ซื้อและผู้ขายทำสัญญากันเพื่อแลกเปลี่ยนความแตกต่างของราคาสินทรัพย์ระหว่างเวลาที่สัญญาเริ่มต้นและเวลาที่สัญญาสิ้นสุด ผู้ค้าสามารถเปิดตำแหน่ง "ซื้อ" (Long) หากเชื่อว่าราคาของสินทรัพย์จะเพิ่มขึ้น หรือเปิดตำแหน่ง "ขาย" (Short) หากเชื่อว่าราคาของสินทรัพย์จะลดลง

ข้อดีของการซื้อขาย CFD คือความสามารถในการใช้ประโยชน์ (Leverage) ซึ่งหมายความว่าผู้ค้าสามารถเปิดตำแหน่งที่มีขนาดใหญ่กว่าทุนที่พวกเขามีจริง ๆ อย่างไรก็ตาม การใช้ประโยชน์นี้อาจเป็นดาบสองคม เนื่องจากอาจทำให้ผู้ค้าสูญเสียเงินมากกว่าที่ลงทุนหากตลาดเคลื่อนไหวในทางตรงกันข้ามกับที่คาดการณ์ไว้

ประเภทของสินทรัพย์ที่สามารถซื้อขาย CFD

CFD สามารถใช้ในการซื้อขายสินทรัพย์หลากหลายประเภท รวมถึง:

  • หุ้น: ผู้ค้าสามารถทำการซื้อขายหุ้นของบริษัทต่าง ๆ เช่น Apple, Google หรือ Microsoft โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของหุ้นนั้น ๆ โดยตรง

  • ดัชนี: ผู้ค้าสามารถทำการซื้อขายดัชนีตลาดหุ้นเช่น S&P 500, FTSE 100, หรือ DAX 30 ซึ่งสะท้อนถึงการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นที่อยู่ในดัชนีนั้น ๆ

  • สินค้าโภคภัณฑ์: CFD สามารถใช้ในการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์เช่น น้ำมัน, ทองคำ, หรือเงิน

  • ฟอเร็กซ์: การซื้อขายค่าเงินต่างประเทศ (Forex) เป็นอีกหนึ่งประเภทที่นิยมใช้ CFD โดยผู้ค้าสามารถทำการเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินต่าง ๆ

  • คริปโตเคอเรนซี่: CFD ยังสามารถใช้ในการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลเช่น Bitcoin, Ethereum, และ Ripple

กระบวนการซื้อขาย CFD

การซื้อขาย CFD เริ่มต้นด้วยการเลือกแพลตฟอร์มการซื้อขายที่เหมาะสม แพลตฟอร์มเช่น MetaTrader 4 (MT4), MetaTrader 5 (MT5), และ cTrader เป็นที่นิยมในการซื้อขาย CFD เนื่องจากมีฟังก์ชันการใช้งานที่ครอบคลุมและมีเครื่องมือวิเคราะห์ที่สามารถช่วยผู้ค้าในการตัดสินใจ

เมื่อผู้ค้าเลือกสินทรัพย์ที่ต้องการซื้อขายแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการกำหนดขนาดของตำแหน่ง (Position Size) และระดับของการใช้ประโยชน์ ผู้ค้าจะต้องพิจารณาความเสี่ยงที่ตนยอมรับได้ เนื่องจากการใช้ประโยชน์สามารถเพิ่มผลกำไรได้อย่างมาก แต่ก็อาจเพิ่มการสูญเสียได้เช่นกัน

การจัดการความเสี่ยงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการซื้อขาย CFD ผู้ค้าสามารถใช้เครื่องมือเช่น Stop Loss และ Take Profit เพื่อกำหนดระดับที่ตนต้องการปิดตำแหน่งโดยอัตโนมัติเมื่อราคาสินทรัพย์ถึงระดับที่กำหนดไว้

ข้อดีและข้อเสียของการซื้อขาย CFD

ข้อดีของการซื้อขาย CFD:

  • ความสามารถในการใช้ประโยชน์: CFD ช่วยให้ผู้ค้าสามารถเปิดตำแหน่งใหญ่ได้ด้วยการลงทุนเพียงเล็กน้อย

  • การซื้อขายได้ในทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง: CFD ช่วยให้ผู้ค้าสามารถเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในทั้งทิศทางขึ้นและลง

  • ไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์: ผู้ค้าสามารถทำกำไรจากสินทรัพย์ต่าง ๆ โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้น ๆ โดยตรง

ข้อเสียของการซื้อขาย CFD:

  • ความเสี่ยงสูง: การใช้ประโยชน์สามารถทำให้ผู้ค้าสูญเสียเงินมากกว่าที่ลงทุน

  • ต้นทุนการถือครอง: การถือครองตำแหน่ง CFD อาจมีต้นทุนเพิ่มเติมเช่นค่า Swap หรือค่า Rollover

สรุป

การซื้อขาย CFD เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ค้าที่ต้องการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้น ๆ โดยตรง แม้ว่าจะมีความยืดหยุ่นสูงและมีโอกาสทำกำไรได้มาก แต่การซื้อขาย CFD ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน ผู้ค้าจึงควรมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับกระบวนการและความเสี่ยงก่อนที่จะเริ่มต้นซื้อขาย และควรใช้เครื่องมือการจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสมเพื่อปกป้องการลงทุนของตน.

CONTINUE TO SITE